กระทรวงเกษตรฯ ขานรับปลูกพืชพลังงาน ในเขตพื้นที่ไม่เหมาะสม ป้อนโรงไฟฟ้าชีวมวล หวังสร้างรายได้ที่ยั่งยืนกับเกษตรกร
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะทำงานจัดทำแนวทางสร้างความมั่นคงอย่างยั่งยืนให้แก่เกษตรกรด้วยโรงไฟฟ้าชีวมวลว่า เพื่อสร้างโอกาสในการเพิ่มรายได้และเป็นทางเลือกใหม่ในการปลูกพืชของเกษตรกร ตามนโยบายสำคัญของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายใต้หลักตลาดนำการผลิต
ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นชอบให้ดำเนินการจัดทำแนวทางส่งเสริมการปลูกพืชพลังงานชีวมวล ในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม พร้อมทั้งพิจารณากรอบแนวทางการดำเนินงานที่เหมาะสม เพื่อความมั่นคงและยั่งยืนทางรายได้ของเกษตรกร โดยบูรณาการร่วมกันระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพลังงาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สภาเกษตรกรแห่งชาติ สภาอุตสาหกรรมฯ และสภาหอการค้าฯ เป็นต้น
นอกจากนี้ การปลูกพืชพลังงานไฟฟ้าชีวมวล ยังเป็นการแก้ไขปัญหาการปลูกพืชที่ไม่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ส่งผลให้ได้รับผลตอบแทนต่ำ ไปสู่พืชทางเลือกใหม่ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และมีตลาดรองรับที่แน่นอน เช่น โรงไฟฟ้าชีวมวลของชุมชน ซึ่งในหลายพื้นที่ของประเทศไทยมีพื้นที่ที่มีศักยภาพในการปลูกไม้เศรษฐกิจโตเร็ว สามารถใช้เป็นวัตถุดิบป้อนเข้าสู่โรงไฟฟ้าชีวมวลตามนโยบายของกระทรวงพลังงานได้
ก่อนหน้านี้ นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ กล่าวว่า “ไผ่” เหมาะสมที่จะใช้เป็นพืชพลังงานชีวมวล และกระทรวงพลังงานสนใจจะนำไปพิจารณาเพื่อไปสู่การจัดตั้งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล โดยให้สภาเกษตรกรแห่งชาติจะช่วยวิเคราะห์พื้นที่ศักยภาพ
ส่วนความห่วงใยและความกังวลเรื่องการจัดตั้งโรงไฟฟ้าชุมชนกรณีมลภาวะนั้น ปัจจุบันประเทศไทยมีเทคโนโลยีที่แพร่หลายในการเผาไหม้สมบูรณ์จนแทบไม่ปล่อยมลภาวะเลย สิ่งที่น่าห่วงคือ ภาครัฐมีความจริงจังแค่ไหน เช่น พื้นที่ปลูก เกษตรกรปลูกพืชพลังงานในพื้นที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ก็ต้องอนุญาตให้นำมาใช้ประโยชน์หรือเอามาขายได้ด้วย