นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถของอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.)โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุม ว่า ที่ประชุมมีนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เห็นชอบรายละเอียดให้ดำเนินการพัฒนา ทสภ. โดยก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารด้านทิศตะวันออก (East Expansion) ทิศตะวันตก (West Expansion) และทิศเหนือ (North Expansion) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของสนามบินสุวรรณภูมิให้รองรับผู้โดยสารได้ 120 ล้านคนต่อปี
สำหรับการดำเนินการก่อสร้าง East -West จะใช้เงินลงทุน แห่งละ 7 พันล้าน รวมกันประมาณ 1.5 หมื่นล้าน ส่วน North จะใช้เงินก่อสร้าง 4.2 หมื่นล้าน รวมทั้งสามโครงการ 5.7 หมื่นล้านบาท สำหรับงบประมาณในการลงทุนก่อสร้างบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน )หรือ ทอท. มีความพร้อมในการลงทุน ทางสภาพัฒน์ไม่ได้ขัดข้อง แต่ขอให้ทบทวนผลการศึกษาแนวทางการพัฒนา ทสภ. ให้ชัดเจน พร้อมทั้งนำมติที่ประชุมสอบถามไปยังสำนักงานการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) และสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ด้วย
ทั้งนี้ ได้มอบให้ ทอท. ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน จากนั้นในเดือน มี.ค. 64 จะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) หากเห็นชอบ ทอท.จะไปดำเนินการในขั้นตอนการประกวดราคา (ประมูล) หาผู้รับจ้าง คาดว่าจะได้เอกชนผู้รับจ้างประมาณเดือน ก.ย. 64 โดย North Expansion ก่อสร้าง 24 เดือน แล้วเสร็จเดือน ก.ย .66 ขณะที่ West & East Wings ก่อสร้าง 28 เดือน แล้วเสร็จ ม.ค. 67
อย่างไรก็ตาม จากการคาดการณ์ของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) มีความเห็นว่า ปริมาณผู้โดยสารของ ทสภ. จะกลับมาเท่ากับปี 2562 ประมาณ 65 ล้านคน อีกครั้งในปี 2566 ซึ่งการพัฒนา ทสภ. ก่อสร้างส่วนต่อขยายนี้จะทำให้ลดความแออัดและเพิ่มประสิทธิภาพในการรองรับผู้โดยสารได้อย่างเพียงพอ รวมทั้งสนับสนุนการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทย
ทั้งนี้ ปัจจุบัน ทสภ. อยู่ระหว่างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1 : SAT-1) และการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 ซึ่งเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะทำให้ ทสภ. เพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารจากปัจจุบัน 45 ล้านคนต่อปี เป็น 60 ล้านคนต่อปี ทั้งนี้ การก่อสร้าง East Expansion มีขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารภายในประเทศ 15 ล้านคนต่อปี วงเงินงบประมาณ 7,830 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 29 เดือน พื้นที่ 66,000 ตร.ม. และมีสิ่งอำนวยความสะดวก ได้แก่ เคาเตอร์เช็คอิน 108 เคาเตอร์ สายพานรับกระเป๋า 6 ชุด ช่องตรวจค้น 9 ช่อง
ขณะที่การก่อสร้าง West Expansion มีขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ 15 ล้านคนต่อปี วงเงินงบประมาณ 7,830 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 29 เดือน พื้นที่ 66,000 ตร.ม. เคาเตอร์เช็คอิน 108 เคาเตอร์ สายพานรับกระเป๋า 6 ชุด ช่องตรวจค้น 9 ช่อง ช่องตรวจคนเข้าเมือง ขาออก 34 ช่อง ขาเข้า 56 ช่อง
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า การก่อสร้าง North Expansion รองรับผู้โดยสารภายในประเทศและระหว่างประเทศ 30 ล้านคนต่อปี วงเงินงบประมาณ 41,260 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 25 เดือน พื้นที่ 348,000 ตร.ม. และมีสิ่งอำนวยความสะดวก อาคารจอดรถ 3,000 คัน หลุมจอดประชิดอาคาร 14 หลุมจอด สายพานรับกระเป๋า 17 ชุด ช่องตรวจค้น 49 ช่อง ช่องตรวจคนเข้าเมือง ขาเข้า 82 ช่อง ขาออก 66 ช่อง รถไฟฟ้าขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (Automated People Mover : APM) ทั้ง Airside และ Landside รวมทั้งมีพื้นที่ถนนรองรับรถหน้าอาคารผู้โดยสาร (Curb Side)