นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ในปี 2564 สปสช.ในฐานะหน่วยงานที่ดูแลสิทธิประโยชน์ด้านการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้กับประชาชนทุกสิทธิหลักประกันสุขภาพ อันประกอบด้วย ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ระบบประกันสังคม และสวัสดิการข้าราชการ ได้จัดเตรียมวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ชนิด 3 สายพันธุ์ จำนวน 4 ล้านโด๊ส ให้บริการแก่ 7 กลุ่มเสี่ยง และอีก 3.5 แสนโด๊ส ให้แก่หญิงตั้งครรภ์โดยเฉพาะ
สำหรับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยงที่มีสิทธิรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ได้แก่ 1. หญิงมีครรภ์ 2. เด็กอายุ 6 เดือนถึง 2 ปี 3. ผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค (โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน) 4. ผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป 5. ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ 6. โรคธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง และ 7. โรคอ้วน มีน้ำหนัก 100 กิโลกรัมขึ้นไป หรือดัชนีมวลกายมากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร ทั้งนี้ หญิงมีครรภ์แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่เมื่อมีอายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป
ทั้งนี้ สปสช. เตรียมจัดสรรวัคซีนให้กับหน่วยบริการประจำ หรือโรงพยาบาลในระบบบัตรทองตามโควตาที่กำหนด และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน จึงได้เปิดช่องทางให้ประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง สามารถจองสิทธิและนัดหมายเข้ารับการฉีดวัคซีนล่วงหน้าได้ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 31 มีนาคม 2564 และเข้ารับการฉีดระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม- 31 สิงหาคม 2564 ส่วนหญิงตั้งครรภ์สามารถขอลงทะเบียนและฉีดวัคซีนได้ตลอดทั้งปี โดยมี 4 ช่องทางในการจองสิทธินัดฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ล่วงหน้าดังนี้
กรณีประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง สามารถจองผ่าน
1. สายด่วน สปสช. โทร. 1330 กด 8 ตั้งแต่เวลา 08.30-17.00 น. (ทั่วประเทศ)
2. หน่วยบริการประจำหรือโรงพยาบาลในระบบบัตรทอง (ทั่วประเทศ)
3. Line @UCBKK สร้างสุข (เฉพาะผู้มีสิทธิบัตรทองหรือพักอาศัยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร) ให้บริการวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา 8.30-18.00 น. และวันเสาร์ถึงวันอาทิตย์ เวลา 9.00-16.00 น.)
เฉพาะผู้สูงอายุที่อายุ 65 ปีขึ้นไป สปสช.เปิดทางเลือกให้สามารถลงทะเบียนจองสิทธิและนัดฉีดผ่าน Health Wallet ภายในแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้ ครอบคลุมผู้สูงอายุที่อายุ 65 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ
“ระบบการจองคิวและนัดหมายล่วงหน้า ไม่เพียงอำนวยความสะดวกประชาชนในการจองและนัดหมายการฉีดวัคซีนล่วงหน้า ยังจะเป็นประโยชน์ต่อหน่วยบริการหรือโรงพยาบาลในการบริหารจัดการฉีดวัคซีน ช่วยลดความแออัดผู้รับบริการในโรงพยาบาล ลดความซ้ำซ้อนข้อมูลผู้รับบริการฉีดวัคซีนซึ่งมีทั้งผู้ประกันตน บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข และประชาชนกลุ่มเสี่ยงในระบบบัตรทอง” นพ.ศักดิ์ชัย กล่าว
นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวอีกว่า ในส่วนของทางเลือกที่เปิดให้สำหรับผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปนั้น เป็นความร่วมมือระหว่าง สปสช. กับ ธนาคารกรุงไทย โดยในปีหน้ามีแผนที่จะยกระดับการให้บริการดังกล่าว ด้วยการเปิดให้ประชาชนทุกกลุ่มเสี่ยง (นอกเหนือจากผู้สูงอายุ) สามารถลงทะเบียนจองสิทธิและนัดหมายการฉีดด้วยโทรศัพท์มือถือผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้ด้วยเช่นกัน
“สปสช.ได้ขอการสนับสนุนจากธนาคารกรุงไทยช่วยต่อยอดพัฒนาและขยายระบบการจองคิวและนัดหมายฉีดวัคซีนผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” หรือผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ให้ครอบคลุมหน่วยบริการบัตรทองและประชาชนกลุ่มเสี่ยงทั่วประเทศ ภายใต้ KRUNGTHAI DIGITAL HEALTH PLATFORM นอกจาก สปสช.แล้ว สำนักงานประกันสังคมก็ได้ขอใช้ระบบการจองคิวและนัดหมายฉีดสำหรับการให้บริการวัคซีนไข้หวัดใหญ่แก่ผู้ประกันตนที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปด้วย” นพ.ศักดิ์ชัย กล่าว
โดยขณะนี้ สปสช.ได้จัดเตรียมแผนการบริหารจัดการวัคซีน และร่วมกับกรมควบคุมโรคและธนาคารกรุงไทยดำเนินการประชุมชี้แจงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของหน่วยบริการประจำ/โรงพยาบาลในระบบบัตรทองทั่วประเทศ เพื่อเตรียมการบริการวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่แก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยงภายใต้แนวทางการบริหารจัดการรูปแบบใหม่แล้ว คาดว่าในปีนี้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงจะได้รับบริการวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่โดยเร็ว มีความครอบคลุมและทั่วถึงยิ่งขึ้น