นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ประเทศไทยมีคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต หรือ CPI ประจำปี 2020 อยู่ในอันดับ 104 ของโลกจาก 180 ประเทศ ตามประกาศขององค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (TI) ว่า ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา อันดับของไทยถูกปรับขึ้นลงตามปัจจัยที่ผันแปรในแต่ละปี เช่น แหล่งข้อมูลที่สำรวจ หรือจำนวนประเทศ เป็นต้น แม้ว่าปีนี้เราจะขยับลงไป 3 อันดับ แต่ไทยยังคงรักษาคะแนนรวมไว้ได้ตลอด 3 ปี ตั้งแต่ปี 2018-2020 ที่ 36 คะแนน นอกจากนี้ อันดับของไทยในกลุ่มเอเชียแปซิฟิกอยู่ที่ 19 จาก 31 ประเทศ ส่วนอันดับในอาเซียนดีขึ้นจากอันดับ 6 เป็นอันดับ 5
นายอนุชา กล่าวว่า เมื่อพิจารณาคะแนนจากแหล่งข้อมูล 9 แหล่ง พบว่าไทยมีคะแนนไม่เปลี่ยนแปลงทั้งหมด 8 แหล่ง มีเพียงข้อมูลจากการสำรวจของ IMD เท่านั้น ที่คะแนนลดลงจาก 45 เหลือ 41 โดยก่อนหน้านี้พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการติดตามแก้ไขปัญหาเรื่องการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับบ่อนการพนันและแรงงานลักลอบเข้าเมือง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหลักของคะแนนที่ลดลงจากแหล่งข้อมูลนี้ อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีได้สั่งกำชับให้ลงโทษเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดอย่างเด็ดขาด ตลอดจนบังคับใช้กฎหมายต่าง ๆ อย่างจริงจัง และเกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อภาคธุรกิจและประชาชน เช่น พ.ร.บ.อำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการฯ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีรับทราบผลคะแนนดัชนีดังกล่าวแล้ว และได้สั่งการให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องไปศึกษารายละเอียด และทบทวนการปฏิบัติงานใหม่ โดยสิ่งใดที่เป็นข้อแนะนำของ TI เช่น การสร้างความเข้มแข็งให้กับหน่วยงานตรวจสอบ การสร้างความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการเปิดเผยและความโปร่งใสในการได้รับสัญญา นั้น จะต้องได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น ไม่ให้เกิดปัญหาเดิมซ้ำ ๆ อีกต่อไป