กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้รายงานสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศวันนี้ (12 ก.พ.64) ว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ทำให้ภาคใต้มีฝนบางแห่ง โดยแม่น้ำสายหลักน้ำน้อยถึงปกติและมีแนวโน้มลดลง ภาพรวมปริมาณน้ำใช้การ แหล่งน้ำทุกขนาด 22,051 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 38 และแหล่งน้ำขนาดใหญ่ 16,519 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 38 จุดเฝ้าระวังน้ำน้อยยังคงอยู่ในพื้นที่ 12 แห่ง ทั้งนี้ กอนช.ได้ติดตามสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงระหว่างวันที่ 11-14 กุมภาพันธ์ คาดว่า จะส่งผลกระทบให้เกิดค่าความเค็มเพิ่มสูงขึ้นในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยกรมชลประทานได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตั้งเเต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ จากอัตรา 55 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 80 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จนถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ แล้วจะลดเหลืออัตรา 45 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที // เพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนพระรามหก วันที่ 10 กุมภาพันธ์ จากอัตรา 45 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 55 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และตั้งเเต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ ได้เพิ่มการระบายเป็น 70 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ แล้วจะลดลงเหลือ 25 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที พร้อมทั้ง ได้กำชับให้โครงการชลประทานในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาปฏิบัติตามมาตรการควบคุมค่าความเค็มที่กำหนดไว้ // ขอความร่วมมือประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าทุกแห่งที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาลงมาจนถึงสถานีสูบน้ำสำแลให้งดการรับน้ำหรือสูบน้ำในระยะนี้ เพื่อให้การควบคุมค่าความเค็มเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดและมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ปัจจุบันความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยาเท่ากับ 0.14 กรัมต่อลิตร อยู่ในเกณฑ์มาตฐาน และ กอนช. ได้กำชับให้หน่วยงานยังคงมาตรการควบคุมความความเค็มต่อเนื่องจนถึงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ คาดว่า ยังได้รับอิทธิพลของลมใต้ส่งผลให้ระดับน้ำในเเม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณปากอ่าวไทยมีระดับน้ำเพิ่มขึ้น
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ยังได้เฝ้าระวังคุณภาพน้ำเพื่ออุปโภค-บริโภค บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ณ สถานีสูบน้ำสำแล จ.ปทุมธานี มีค่าความเค็มอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนน้ำเพื่อการเกษตรแม่น้ำท่าจีน แม่น้ำบางปะกง และแม่น้ำแม่กลอง ค่าความเค็มเกินเกณฑ์มาตรฐาน