นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมจะเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ในเร็ว ๆ นี้ โดยอยู่ระหว่างการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ หลังจากการเปิดลงทะเบียนโครงการ “เราชนะ”
สำหรับประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เช่น ไม่สามารถเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ต ไม่มีสมาร์ทโฟน ทำให้ไม่สามารถใช้งานแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ได้ หรือผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง เป็นต้น ทำให้เห็นว่ายังมีประชาชนที่มีรายได้น้อย แต่เข้าไม่ถึงสิทธิบัตรสวัสดิการของรัฐอยู่อีกไม่น้อย จึงต้องทบทวนสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใหม่
“ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะเปิดลงทะเบียนหลังจากจบโครงการเราชนะทันทีเลยหรือไม่ อย่างไรก็ดี จะพยายามทำให้เต็มที่ โดยหลักเกณฑ์ที่จะพิจารณาหลัก ๆ คือ เรื่องของรายได้ จะต้องเป็นผู้มีรายได้น้อยตามเงื่อนไขที่กระทรวงการคลังกำหนด” นายกฤษฎากล่าว
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ภายในปีนี้จะมีการทบทวนสิทธิรอบใหม่สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 13.8 ล้านคน โดยกระทรวงการคลังจะประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาข้อสรุป
หลังจากจบการลงทะเบียนโครงการเราชนะ ช่วงเดือน มี.ค. 2564 ซึ่งจะเป็นการเปิดให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการ และประชาชนทั่วไป เข้ามาลงทะเบียนรับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ และจากนี้ไป กระทรวงการคลังจะมีการทบทวนข้อมูลผู้ถือบัตรสวัสดิการในทุก ๆ ปี เพื่อเป็นการอัพเดตข้อมูล หลังจากที่ผ่านมาไม่ได้ทบทวนสิทธิผู้ถือบัตรสวัสดิการมา 2-3 ปีแล้ว
“เดิมจะเปิดทบทวนบัตรสวัสดิการรอบใหม่ตั้งแต่ช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา แต่เจอโควิด-19 ระบาดรอบใหม่จึงชะลอออกไปก่อน โดยหลังจากจบการลงทะเบียนโครงการเราชนะ ในเดือน มี.ค.นี้ กระทรวงการคลังก็จะเร่งทำเพื่อหาข้อสรุปอีกครั้ง
โดยกลุ่มเดิมที่ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐอยู่แล้วก็ต้องเข้ามาลงทะเบียนทบทวนใหม่ทุกคน ซึ่งเป็นเหมือนกับการพิจารณาเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เช่น มีคนได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการ
แต่ตอนนี้ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการแล้ว ถ้าเปิดลงทะเบียนรอบใหม่ ข้าราชการก็จะไม่มาลงทะเบียนแล้ว เพราะมีเงินเดือนเกินกว่า 1 แสนบาทต่อปี หรือถ้าคิดว่าไม่ผ่านเกณฑ์ แต่เข้ามาสมัครก็จะถูกคัดกรองออกไป” นางสาวกุลยากล่าว
ทั้งนี้ การเปิดทบทวนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐครั้งนี้ จะกำหนดเกณฑ์และเงื่อนไขใหม่ โดยจะพิจารณาคุณสมบัติจากรายได้ครัวเรือนเป็นหลัก ต่างจากกที่ผ่านมา ที่พิจารณาจากรายได้รายบุคคล เช่น ภรรยาในครอบครัวนั้นเป็นผู้ไม่มีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่สามีเป็นผู้มีเงินได้จำนวนมาก
ที่ผ่านมาภรรยาก็จะได้รับสิทธิ แต่รอบนี้จะพิจารณาเกณฑ์รายได้ครอบครัว ส่วนเกณฑ์ขั้นต่ำที่พิจารณารายได้ของครอบครัวนั้น ยังต้องหารือเพื่อสรุปอีกครั้งส่วนเมื่อปรับเกณฑ์เป็นดูรายครอบครัวแล้ว จะทำให้มีผู้เข้าร่วมโครงการน้อยลงหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถบอกได้