นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ในฐานะประธานศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กล่าวว่า ช่วงเช้าวันนี้ (22 ก.พ.64) ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลปรับตัวสูงขึ้นทุกพื้นที่ เกินมาตรฐานในระดับสีส้มเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 60 พื้นที่ เช่น ริมถนนสุขาภิบาล 5 เขตสายไหม , ริมถนนเลียบวารี เขตหนองจอก , ริมถนนศรีนครินทร์ เขตประเวศ , ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ , ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร , ริมถนนลาดพร้าว ซอยลาดพร้าว 95 เขตวังทองหลาง เนื่องจากสภาพการจราจรหนาแน่นและสภาพอากาศส่วนใหญ่ลมนิ่งส่งผลให้ฝุ่นละอองสะสมตัวเพิ่มขึ้น โดย ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจจับและควบคุมรถยนต์ที่ปล่อยควันดำบนท้องถนน ควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังจะช่วยลดฝุ่น PM 2.5 ลงได้ค่อนข้างมาก ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพียงบางส่วนของมาตรการรัฐบาลที่ได้ดำเนินการไปแล้วอย่างเข้มงวด
ขณะที่ทั่วประเทศค่าฝุ่น PM 2.5 และ PM 10 หลายพื้นที่ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกันเกินในระดับระดับสีแดงมีผลกระทบต่อสุขภาพ 2 พื้นที่ บริเวณ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี และ ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก ที่ค่าเกิน 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และระดับสีส้ม 92 พื้นที่ เช่น ต.มีชัย อ.เมือง จ.หนองคาย , ต.เหนือเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด , ต.วังเย็น อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา , ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี , ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี , ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา, พระนครศรีอยุธยา ส่วนค่าฝุ่น PM 10 เกินระดับสีแดงสูงกว่า 200 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร 4 พื้นที่ คือ ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา , ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี , ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก และ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี จากสภาพอุตุนิยมวิทยาและการเผาในที่โลง โดย กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่งดการเผาในที่โล่ง เพื่อป้องกันการเพิ่มสูงขึ้นของฝุ่นละอองและส่งผลกระทบต่อสุขภาพ