ศ.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ เปิดเผยระหว่างการประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ หรือมหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ (U2T) ที่ จ.ลำปาง ว่า ขณะนี้โครงการ U2T ได้จ้างงานนักศึกษา บัณฑิตและประชาชนได้กว่า 50,000 อัตราแล้ว จากทั้งหมด 60,000 อัตรา หรือประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ และกำลังทยอยจ้างให้ครบ 60,000 อัตราในเร็วๆ นี้ โดยโครงการ U2T ดำเนินการมาได้แล้ว 1 เดือนครึ่ง มีผู้ได้รับการจ้างงานและลงไปทำงานกับชุมชนใน 3,000 ตำบลทั่วประเทศ ได้ก่อให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจใน 3 พันตำบล เดือนละเกือบ 1,000 ล้านบาท
ที่สำคัญผู้ได้รับการจ้างงาน ได้ไปทำโครงการร่วมกับชุมชน ทำให้เกิดโครงการใหม่ประมาณ 20,000 โครงการ หรือประมาณ 10 โครงการต่อ 1 ตำบล ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี โดย 40 เปอร์เซ็นต์ ใน 20,000 โครงการ เป็นโครงการที่ทำร่วมกับชุมชนท้องถิ่น 20 เปอร์เซ็นต์ เป็นโครงการเกี่ยวกับเอสเอ็มอี วิสาหกิจชุมชนและสตาร์ตอัพ และอีก 20 เปอร์เซ็นต์เป็นโครงการที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานของชุมชน เช่น การกำจัดขยะ การบำบัดน้ำเสีย มลพิษ และการปรับระบบสาธารณูปโภคในพื้นที่ เป็นต้น
ประธานบอร์ด U2T กล่าวต่อว่า ที่สำคัญผู้ได้รับการจ้างงาน ได้รับการพัฒนาทักษะแล้วใน 3 กลุ่ม โดยกลุ่มแรก คือทักษะด้านอาชีพ ทั้งการริเริ่มโครงการใหม่และการเพิ่มความเชี่ยวชาญด้านอาชีพให้กับตนเอง กลุ่มที่สองทักษะพื้นฐานที่จำเป็นต้องใช้ เช่น เรื่องของภาษาอังกฤษ หรือ การติดต่อสื่อสาร และกลุ่มที่สาม ทักษะชีวิต ผู้ได้รับการจ้างงานได้ทำงานร่วมกับชุมชน ซึ่งจะทำให้เมื่อทำงานครบ 1 ปีของการจ้างงาน อว.คาดหวังว่าผู้ได้รับการจ้างงานทั้งหมดจะมีอาชีพที่ยั่งยืน มีผู้ได้รับการจ้างงานที่กลายเป็นผู้ประกอบการที่มีฝีมือในชุมชนของตนเองและกลายเป็นผู้นำชุมชนอย่างน้อยใน 3 พันตำบลที่ได้รับการจ้างงาน
ด้าน ศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.อว. กล่าวว่า ต้องขอบคุณโควิด-19 วิกฤตินี้ ทำให้รัฐบาลต้องจ้างงานนักศึกษาเพื่อบรรเทาการว่างงานด้วยความเป็นห่วงประชาชน โดยตนได้กำชับแต่ละตำบล ผู้นำท้องถิ่น ทั้ง อบต. เทศบาล ให้ดูแลระบบเงินที่ไหลเวียนอยู่ในชุมชนให้มากที่สุดเพื่อช่วยเศรษฐกิจชุมชนและช่วยชุมชนให้มีรายได้