สทนช. ย้ำชัด เพื่อความรอบคอบ กฎหมายค่าใช้น้ำยังต้องผ่านความเห็นอีกหลายขั้น ไม่ใช่การเก็บเพื่อแสวงหากำไรแต่มุ่งหวังสร้างจิตสำนึกร่วมกัน รายได้พร้อมคืนกลับสู่สังคม ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ชี้แจงในกรณีเกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์ผ่านสื่อมวลชน เกี่ยวกับการกำหนดอัตราค่าใช้น้ำ ว่า ขอยืนยันว่าการเก็บค่าใช้น้ำ ไม่ใช่การเก็บด้วยวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร แต่มีเจตนารมณ์เพื่อผู้ใช้น้ำทุกรายมีส่วนร่วมในการประหยัดน้ำและคิดวางแผนการใช้น้ำอย่างครอบคลุม โดยขั้นตอนการดำเนินการในปัจจุบัน แบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน ได้แก่ การกำหนดประเภทผู้ใช้น้ำและหลักเกณฑ์การกำหนดราคาค่าน้ำ โดย สทนช. ในส่วนที่สองคือ การกำหนดรายละเอียดของอัตราค่าใช้น้ำและอัตราการลดหย่อนการใช้น้ำ ซึ่งกำลังเป็นประเด็นข้อกังวลอยู่ในขณะนี้นั้น เป็นภารกิจการดำเนินการออกกฎหมายรองของกรมทรัพยากรน้ำ กรมชลประทาน และกรมทรัพยากรน้ำบาดาล แต่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการประกาศบังคับใช้ เนื่องจากอยู่ในกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนและนำเสนอต่อคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัดและคณะกรรมการลุ่มน้ำให้ความเห็นก่อนที่จะนำเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาของ คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบต่อไป คาดว่าจะใช้เวลาในการดำเนินการอีกประมาณ 1 ปี เลขาธิการ สทนช. เปิดเผยต่อว่า สำหรับอัตราค่าน้ำและรูปแบบการเก็บค่าน้ำจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสภาพและความพร้อมของแต่ละพื้นที่ ซึ่งจะเป็นผลที่ได้จากการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่นั้น ๆ และนำมาหารือกับคณะกรรมการลุ่มน้ำ เพื่อให้ได้รายละเอียดที่ชัดเจนและเหมาะสมกับแต่ละพื้นที่มากที่สุด โดยการเก็บค่าน้ำถือเป็นมาตรการที่จะนำมาใช้ประโยชน์ในแง่ของการสร้างจิตสำนึกและปรับพฤติกรรมการใช้น้ำให้ลดลงในช่วงฤดูแล้งที่มีขาดแคลนน้ำ เพื่อให้สามารถนำน้ำที่มีอยู่ไปช่วยเหลือในส่วนของการอุปโภค-บริโภค ซึ่งมีความสำคัญเป็นอันดับแรก แต่จะเป็นมาตรการสุดท้ายที่จะเลือกนำมาใช้ ในกรณีหากใช้มาตรการอื่น ๆ ไม่ได้ผล ทั้งนี้ ค่าน้ำที่เรียกเก็บจะถูกจัดสรรเป็นรายได้แผ่นดิน และส่งคืนให้กับท้องถิ่นและหน่วยงานที่ดูแลแหล่งน้ำนั้น ๆ รวมถึงประชาชนในรูปแบบของงบประมาณประจำปี อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าในช่วง 2 ปีนี้ จะไม่มีการเก็บค่าน้ำในส่วนของภาคการเกษตรอย่างแน่นอน และอยากเรียนให้ผู้ใช้น้ำทุกภาคส่วนได้รับทราบและคลายกังวลว่า ทุกขั้นตอนและกระบวนการดังกล่าว ล้วนดำเนินไปอย่างละเอียดรอบคอบ ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าอัตราค่าใช้น้ำที่จะประกาศใช้นั้น จะมีความถูกต้องตามหลักการ โปร่งใส และสร้างความเป็นธรรมอย่างทั่วถึงแก่ผู้ใช้น้ำทุกคนแน่นอน