กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับสมาคมการค้าไทย-ไห่หนาน นำสินค้าไทยบุกตลาดจีนหลังเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มสดใส เน้นธุรกิจอาหารและบริการ รวมทั้งสินค้าเกษตร เกษตรแปรรูป ผลิตภัณฑ์ยางพารา อาหารสำเร็จรูป ของใช้ตกแต่งบ้าน สินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม หลังจีนเริ่มฟื้นตัวจากโควิด-19 โดยจะใช้ มินิเอฟทีเอ (Mini-FTA) เชื่อมจีนรายมณฑล โดยสินค้าไทยที่มีโอกาสวางขายในตลาด ซึ่งการค้าระหว่างไทย–จีน คิดเป็นสัดส่วน 18.21% ของการค้าระหว่างประเทศของไทย โดยปีที่แล้วมีมูลค่ากว่า 2.5 ล้านล้านบาท

และล่าสุด นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดศูนย์ (RCEP Center) ซึ่งจะมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้ส่งออกไทย เบื้องต้นมีสินค้า 40,000 รายการของไทยจะได้รับสิทธิพิเศษทางภาษี ในจำนวนนั้นมีประเภทสินค้า 29,000 รายการที่จะถูกลดภาษีทันทีเหลือ 0% ในวันที่ 1 มกราคม ปีหน้า ส่วนที่เหลือประมาณ 9,000 รายการ จะลดภายใน 10-20 ปีให้อัตราภาษีเป็น 0% ตามเงื่อนไขของแต่ละประเทศ สำหรับภาคบริการ ไทยจะได้รับสิทธิพิเศษสามารถเข้าไปถือหุ้นได้ถึง 70-80% ในสาขาบริการ การก่อสร้าง เป็นต้น ข้อตกลงดังกล่าว ถือว่ามีขนาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกมูลค่า GDP 1 ใน 3 ของโลก และมีประชากรรวมกัน 1 ใน 3 ของโลกด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาดึงอินเดีย เข้าร่วม (RCEP คือความร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียน 10 ประเทศ และ อีก 5 ประเทศ ได้แก่ จีนญี่ปุ่น เกาหลี ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ในการตกลงทางการค้า การลงทุนร่วมกัน )

ไม่เพียงสินค้าส่งออกที่กำลังไปได้ดี สินค้าชุมชนก็ยังมีโอกาสในตลาด โดยเฉพาะสินค้าที่มีเครื่องบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ สินค้า GI นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ คนใหม่ ยืนยัน จะเดินหน้าส่งเสริมและสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า GI อย่างยั่งยืน โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ผลักดันให้มีการขึ้นทะเบียนสินค้า GI ไทยรายการใหม่ๆ ล่าสุดขึ้นทะเบียน GI เพิ่ม 2 รายการ คือ ข้าวหอมขาวเจ๊กชัยนาท และถั่วลายเสือแม่ฮ่องสอน ทำให้ปัจจุบันมีสินค้า GI ของไทยที่ขึ้นทะเบียนมีทั้งสิ้น 136 รายการ ครอบคลุม 76 จังหวัด สร้างมูลค่าทางการตลาดได้กว่า 36,000 ล้านบาท