ปากเสียงของ
คนท้องถิ่น
เพื่อการพัฒนาประเทศ
วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม 2568
หน้าแรก
อปท. นิวส์
เกี่ยวกับอปท. นิวส์
โปรไฟล์ผู้บริหาร
ข่าวสาร
ข่าวเด่น / ไฮไลท์
ความสัมพันธ์ไทย - จีน และ เศรษฐกิจเพื่อนบ้าน
คอลัมนิสต์ / บทวิเคราะห์
สังคม / บุคคล
ท้องถิ่นไทย
ท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ
การเมือง / การปกครอง
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก
ธรรมาภิบาล
พลังงาน / สิ่งแวดล้อม
คุณภาพชีวิต
เศรษฐกิจชุมชน
เกษตรนำไทย
สื่อสาร - คมนาคม
ท่องเที่ยว
ข่าววงใน!!!
ปฏิทินข่าว
อปท.นิวส์โพล
ทั่วไป
ข่าวย้อนหลัง
วิดีโอ
ฉบับย้อนหลัง
สมัครสมาชิก
ติดต่อโฆษณา
ติดต่อเรา
ร่วมงานกับเรา
พลังงาน / สิ่งแวดล้อม
ย้อนกลับ
สทนช.ระดมแนวคิดแก้ปัญหาน้ำเค็ม-น้ำท่วม-น้ำแล้ง 4 ลุ่มน้ำติดอ่าวไทย
11 พ.ค. 2564
สทนช. เร่งระดมแนวคิดจากหน่วยงานและผู้เชี่ยวชาญทุกด้าน วิเคราะห์หาจุดสมดุลระหว่างลุ่มน้ำ หาทางออกการแก้ปัญหาน้ำเค็ม-น้ำท่วม-น้ำแล้งใน 4 ลุ่มน้ำติดอ่าวไทยในระยะเร่งด่วนอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมเดินหน้าศึกษาการแก้ไขในระยะยาวอย่างยั่งยืน คาดพร้อมดำเนินการในปี 2565 ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดทำแนวทางการแก้ไขปัญหาการรุกตัวของน้ำเค็ม น้ำท่วมและน้ำแล้งในลุ่มน้ำติดอ่าวไทย โดยคณะอนุกรรมการฯ จากหน่วยงาน ผู้ทรงคุณวุฒิและภาคประชาชนที่ได้รับการแต่งตั้งจาก พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้เริ่มมีการประชุมหารือพร้อมลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์กันมาตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ว่า จากโรดแมปการทำงานของคณะอนุกรรมการฯ ที่ต้องดำเนินการกำหนดกรอบแนวทางและขอบเขตในการศึกษาการแก้ไขปัญหาการรุกตัวน้ำเค็ม น้ำท่วม น้ำแล้งในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง (ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ลุ่มน้ำท่าจีน ลุ่มน้ำบางปะกงตอนล่าง และลุ่มน้ำแม่กลองตอนล่าง) ให้แล้วเสร็จในระยะเวลา 90 วัน หรือภายในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ หลังจากนั้นต้องนำกรอบแนวทางการศึกษาที่ได้สรุปรายงานต่อ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐนตรี ประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ให้ความเห็นชอบต่อไปนั้น สทนช. ได้เร่งระดมแนวคิดจากผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ผู้แทนกลุ่มผู้ใช้น้ำในคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัดในลุ่มน้ำที่ติดอ่าวไทย รวมทั้งได้เชิญอีก 4 หน่วยงานที่มีภารกิจเกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาการรุกตัวของน้ำเค็ม ได้แก่ กรมควบคุมมลพิษ กรมโรงงานอุตสาหกรรม องค์การจัดการน้ำเสีย และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมในประเด็นสถานการณ์น้ำเสียและคุณภาพน้ำ และข้อห่วงกังวลด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อม คุณภาพน้ำ และระบบนิเวศจากแนวคิดก่อสร้างประตูระบายน้ำปิดปากแม่น้ำ 4 สาย เพื่อให้การจัดทำแนวทางการแก้ไขปัญหามีความครอบคลุมในทุกมิติมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ จากการรวบรวม วิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลสถานการณ์ แนวทางการแก้ไขปัญหาจากทุกหน่วยงานและผู้เชี่ยวชาญทุกท่านที่ได้เสนอ รวมถึงการติดตามผลการดำเนินการตามมาตรการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ปี 2563/64 ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 63 ในช่วงฤดูแล้ง ปี 2563/64 นำมาทบทวนปรับปรุงแนวทางมาตรการแก้ไขปัญหาการรุกตัวของน้ำเค็ม น้ำท่วม และน้ำแล้งในลุ่มน้ำติดอ่าวไทยระยะเร่งด่วนในมิติของภาพรวม 3 ด้าน ได้แก่ 1)ด้านอุปสงค์ (Demand) ปัจจุบันความต้องการใช้น้ำ (Demand) มีปริมาณที่สูงกว่าปริมาณน้ำต้นทุน (Supply) ในลำน้ำ โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากการความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มมากจากอดีต เนื่องจากการใช้ประโยชน์ที่ดินที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งภาคการเกษตร อุตสาหกรรม และอุปโภคบริโภค จึงจำเป็นต้องกำหนดเป้าหมายในการสร้างสมดุลระหว่างความต้องการใช้น้ำและปริมาณน้ำต้นทุนในลุ่มน้ำ โดยการควบคุมการจัดสรรน้ำให้เป็นไปตามแผนโดยเฉพาะภาคการเกษตร รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำของทุกภาคส่วนและลดต้นทุนการใช้น้ำในอนาคต 2)ด้านอุปทาน (Supply) ปริมาณน้ำต้นทุนมีไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มสูงขึ้น สาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภาวะเอลนีโญ (El Nino) ส่งผลให้ฝนตกปริมาณน้อยลงและแปรปรวนมาก ทำให้ปริมาณน้ำท่าและน้ำไหลลงเขื่อนลงลด เกิดการสูญเสียน้ำในระบบส่งทำให้ปริมาณน้ำที่ส่งได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ รวมถึงการพัฒนาน้ำต้นทุนไม่เพียงพอต่อความต้องการที่สูงเพิ่มขึ้น จึงจำเป็นต้องกำหนดเป้าหมายในการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนของแต่ละลุ่มน้ำ โดยการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพระบบส่งน้ำทั้งภาคเกษตร อุตสาหกรรม และอุปโภคบริโภคเชื่อมโยงแหล่งน้ำ จัดหาแหล่งน้ำสำรองทั้งผิวดินและใต้ดิน และพัฒนาแหล่งน้ำพื้นที่ต้นน้ำให้สามารถเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนได้เต็มศักยภาพ และ 3)ด้านบริหารจัดการ (Management) กลไกในการบริหารจัดการน้ำให้เกิดความสมดุลยังมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอ เนื่องจากปัจจุบันยังขาดกฎหมายลำดับรอง ตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 และมาตรการที่เป็นรูปธรรมในการควบคุมให้การจัดสรรน้ำเป็นไปตามแผน นอกจากนี้ ระบบการตรวจวัด ติดตาม พยากรณ์สถานการณ์ความเค็มยังไม่สามารถคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำ ระบบฐานข้อมูลยังไม่ได้บูรณาการร่วมกันอย่างเป็นระบบ รวมถึงองค์ความรู้และข้อมูลเชิงวิชาการยังไม่เพียงพอที่จะวางแผนและกำหนดมาตรการในระยะยาว จึงจำเป็นต้องกำหนดเป้าหมายในการกำหนดแนวทาง มาตรการ องค์กร กลไก ฐานข้อมูล ระบบคาดการณ์ และผลการศึกษาวิจัยสนับสนุนการบริหารจัดการน้ำที่เกิดความสมดุลระหว่างความต้องการและปริมาณน้ำต้นทุน “สทนช.จะนำแนวทางและข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาจากหน่วยงานและผู้เชี่ยวชาญทุกท่าน ไปวิเคราะห์สังเคราะห์เพื่อประกอบการพิจารณาทางเลือกในการแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วนที่มีความเหมาะสมมากที่สุด โดยข้อสรุปกรอบแนวทางการแก้ไขปัญหาและรายละเอียดดังกล่าว จะนำเสนอคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัดที่อยู่บริเวณชายขอบของทั้ง 4 แม่น้ำสายหลัก เพื่อให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่เชื่อมโยงกับบริบทของทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ รวมทั้งสอดคล้องกับกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องที่ลงรายละเอียดเชิงลึกในระดับพื้นที่ เพื่อเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์หาจุดสมดุลระหว่างลุ่มน้ำได้อย่างครอบคลุมในมิติของภาพรวมและรายลุ่มน้ำ ทั้งนี้ คาดว่าปี 2565 จะสามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาในระยะยาวได้อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนต่อไป” เลขาธิการ สทนช. กล่าวในตอนท้าย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กาญจนบุรี - กรมอุทยานฯ เปิ...
23 มิ.ย. 2568
คู่มือครูความเป็นกลางทางคา...
18 ก.ค. 2568
“จากต้นกล้าสู่รากแก้วแห่งก...
27 มิ.ย. 2568
ตะลอนกู้โลก รณรงค์ลดขยะและ...
01 ก.ค. 2568
อีสท์ วอเตอร์ จัดกิจกรรมปล...
25 ก.ค. 2568
GPSC กวาด 7 รางวัล Finance...
07 ก.ค. 2568
หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
ฉบับที่ 458 ปักษ์หลัง
วันที่ 16 - 31 สิงหาคม 2568
อปท.นิวส์
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก
ดูทั้งหมด
ผศ.ดร.คณกร สว่างเจริญ อธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
19 ส.ค. 2568
หากจะมองหานักวิชการด้านการศึกษา ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่วัยหนุ่มแล้ว หนึ่งในนั้น คงจะต้องพูดถึง ผู้ช่วยศาสตราจย์ คร.คณกร สว่างเจริญ อธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จ เจ้าพระยาบ้านสมเด็จเจ้าพระยา (มบส.) หนึ่งใน สถาบันการศึกษาที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของประเทศไทย...