13 พ.ค. 2564 นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ‘หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC’ ระบุ เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษพบครั้งแรกเดือนกันยายนปีที่แล้ว ติดต่อกันง่าย แพร่กระจายเร็วกว่าไวรัสโควิดสายพันธุ์เดิม จึงระบาดอย่างกว้างขวางโดยเริ่มจากประเทศสหราชอาณาจักร เข้ายุโรป อเมริกา ต่อมาเข้าทวีปเอเชีย เข้าเขมร ก่อนมาสู่ประเทศไทย
ขณะนี้ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษกำลังครองโลก จนกว่าจะมีไวรัสสายพันธุ์อื่นที่แพร่กระจายง่ายกว่ามาแทนที่
มีข้อมูลว่าไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้นกว่าสายพันธุ์เดิมในฤดูร้อนอุณหภูมิสูง และในฤดูฝนที่มีความชื้นสูง นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดอย่างหนักในทวีปเอเชียขณะนี้
ไวรัสโควิดสายพันธุ์อังกฤษอันตรายรุนแรงกว่าสายพันธุ์เดิม โปรตีนส่วนที่เป็นหนามของเชื้อไวรัสจับกับตัวรับของเซลล์เยื่อบุจมูกและทางเดินหายใจได้ดีขึ้น ทำให้เชื้อไวรัสเข้าเซลล์มากขึ้น เพิ่มจำนวนเชื้อไวรัสในทางเดินหายใจมากขึ้น ทำให้เกิดปอดอักเสบเร็วขึ้น เสียชีวิตเพิ่มขึ้น
ไวรัสสายพันธุ์อังกฤษเข้าประเทศอินเดียตั้งแต่เดือนมกราคมปีนี้ ขณะนี้มีการแพร่ระบาดทั้ง 2 สายพันธุ์ คือสายพันธุ์อังกฤษและสายพันธุ์ประจำถิ่นหรือสายพันธุ์อินเดียซึ่งพบตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว คนในประเทศอินเดียล้มตายเป็นใบไม้ร่วง ผู้เชี่ยวชาญอินเดียเชื่อว่าเกิดจากไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษมากกว่าจากไวรัสสายพันธุ์อินเดีย
ดูการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ปีที่แล้วในลาว เขมร ไทย เมื่อเทียบกับการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์อังกฤษปีนี้ จำนวนคนติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเห็นได้ชัดในทั้ง 3 ประเทศ
โชคดีวัคซีนที่มีในปัจจุบันทั้งซิโนแวคและแอสตร้าเซเนก้าสามารถป้องกันไวรัสโควิดสายพันธุ์อังกฤษ คนไทยทุกคนต้องรีบจองคิว เข้ารับการฉีดวัคซีนทันที อย่ารีรอ สำหรับวัคซีนซิโนแวคต้องฉีดครบ 2 เข็ม
แต่วัคซีนแอสตร้าเซเนก้าเข็มเดียวก็พอ ถ้ามีวัคซีนเหลือ ค่อยมารับเข็ม 2 ถ้าทุกคนปฏิบัติตาม คนในประเทศไทยจะมีภูมิคุ้มกันหมู่ หยุดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในสิ้นปีนี้ได้เหมือนประเทศอังกฤษ