นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า   กนอ.ได้เชิญนายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา มาเป็นวิทยากรให้ความรู้แก่พนักงาน กนอ.                 เพื่อเข้าถึงข้อมูลด้านวัคซีนอย่างรอบด้าน สร้างความมั่นใจให้ผู้ปฏิบัติงานและการปฏิบัติตนทั้งก่อนและหลังการรับวัคซีน พร้อมกันนี้จะได้ช่วยกันเผยแพร่ข้อมูลการเข้ารับวัคซีนไปยังผู้ปฏิบัติงานในนิคมอุตสาหกรรม เพื่อให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นและเข้ารับวัคซีนได้ตามเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ โดยหากประชาชนเข้ารับวัคซีนได้ตามที่ตั้งเป้าไว้จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้
ขณะเดียวกัน ในส่วนของการประชุมนัดแรกของคณะกรรมการบริหารจัดการจุดบริการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019(โควิด-19) แก่แรงงานภาคอุตสาหกรรมและประชาชน เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่มีนางวรวรรณ ชิตอรุณ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานการประชุมฯ พร้อมด้วยนายเดชา จาตุธนานันท์ หัวหน้าศูนย์บริหารสถานการณ์วิกฤต กระทรวงอุตสาหกรรม และนายสหวัฒน์ โสภา รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เข้าร่วมประชุมด้วยนั้น ได้ข้อสรุปความพร้อมในการจัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ การกำหนดสถานที่ การลงพื้นที่สำรวจหาพื้นที่ให้บริการที่อยู่ห่างโรงพยาบาลไม่เกิน 7 นาที เพื่อรองรับกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน                 การสำรวจตัวเลขภาคอุตสาหกรรม การประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัด สาธารณสุขจังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด และผู้บริหารนิคมฯ ต่างๆ เพื่อเตรียมพร้อมรองรับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 จากกระทรวงสาธารณสุขได้ทันที                    ซึ่งจากการรวบรวมข้อมูล มีผู้ปฏิบัติงานในโรงงานที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วประเทศ อยู่ที่ 860,467 คน                  จากโรงงาน 3,747 โรงงาน ใน 44 นิคมอุตสาหกรรม และ 1 ท่าเรืออุตสาหกรรม โดยเบื้องต้นมีนิคมฯที่พิจารณาว่ามีความเหมาะสม จำนวน 25 นิคมฯ ใน 13 จังหวัด และได้สั่งการให้นิคมฯ เหล่านั้นประสานกับโรงพยาบาลและสาธารณสุขในพื้นที่เพื่อทำแผนที่ชัดเจนยิ่งขึ้นต่อไป
ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมประชุมจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้ระบุว่า ภาคเอกชนมีความพร้อมในการสนับสนุนค่าดำเนินการในการจัดเตรียมความพร้อมต่างๆ และเมื่อทราบว่าภาครัฐได้สำรวจข้อมูลแล้ว ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ยิ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ภาคเอกชนเพิ่มขึ้น และการดำเนินงานก็จะเป็นไปได้อย่างรวดเร็วตามเป้าหมายของรัฐบาล โดยคาดว่าวัคซีนจะมีความพร้อมในเร็วๆ นี้ เพราะรัฐบาลมีเป้าหมายฉีดวัคซีนให้ได้ 5 แสนโดสต่อวัน