นายมีชัย กล่าวต่อว่า สิ่งใหม่ๆในร่างกฎหมาย กกต. จะมีของใหม่เปลี่ยนแปลงไปพร้อมกับโลก ประเทศไทยเองต้องเปลี่ยน กฎหมายทุกฉบับที่เริ่มลงมือทำจากนี้ก็ต้องเปลี่ยน จะไม่ให้ใครมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด จนทำให้เกิดความเสียหายเดือดร้อนกับประชาชนได้ รัฐบาลเองกำลังวางกรอบให้สอดคล้องกับร่างรัฐธรรมนูญที่กำหนดเอาไว้ในมาตรา 77 เรื่องลักษณะการออกกฎหมาย ต้องไม่มีกฎหมายฟุ่มเฟือย ไม่จำกัดสิทธิ ไม่ใช้ระบบการอนุญาตเสียจนคนทำมาหากินไม่ได้ ต้องไม่ใช้ระบบคณะกรรมการ อะไรๆก็ประชุมคณะกรรมการจนไม่มีใครตัดสินใจ ในที่สุดพอตัดสินใจแล้วกลับหาคนรับผิดชอบไม่ได้ ในเวลาที่กรธ.ดูกฎหมาย 10 ฉบับจะอยู่ภายใต้อาณัติเช่นนี้
“จากการรับฟังความเห็นเรื่องกกต.จังหวัด เราพบปัญหาเรื่องการทำงานที่ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร จริงหรือที่ กกต.จังหวัดต้องอยู่ประจำทุกทั้งปี ในเมื่อการเลือกตั้งมี 4 ปีครั้ง แล้วถามว่า เคยจับคนทุจริตเลือกตั้งได้หรือไม่ ซึ่งยังไม่ค่อยมากเท่าที่ควร ถ้าการทำงานที่ผ่านมาได้ผลจริง จะเกิดเสียงร่ำลือเรื่องการซื้อเสียงทั่วทุกหัวระแหงหรือ เราจึงหาวิธีเปลี่ยนการทำงาน ซึ่งการเขียนแบบนี้ไม่ได้เกิดจากความฟุ้งซ่าน แต่ศึกษา รับฟัง คิดไตร่ตรองอย่างดี ถามเจ้าหน้าที่กกต.เองแล้วด้วยว่าทำได้ไหม ยืนยันว่า กรธ.มีงานหนัก ไม่มีเวลาฟุ้งซ่าน เปิดใจกว้างเพื่อให้ได้สิ่งดีที่สุดที่จะเกิดประโยชน์กับประเทศชาติและการเมือง เราอาจเพิ่มอาวุธ หรือช่องทางการจับทุจริตเลือกตั้งให้กกต. อาจจะไปไกลถึงขั้นให้มีงบประมาณสำหรับการคนชี้เบาะแสเพื่อให้เกิดความมีประสิทธิภาพ เระชาชนที่ชี้เบาะแสถ้าเรามีค่าตอบแทนให้เขาก็น่าจะช่วยได้ เพราะมีความเสี่ยง แต่แน่นอนว่า มันมีความอันตรายอยู่ในตัว ถ้ากลั่นแกล้งกันเพราะฉะนั้นในบทลงโทษเราจึงเขียนแปลงเลย ใครกลั่นแกล้ง ทั้งพรรค ทั้งสมาชิก และผู้บริหาร จะมีโทษสูงมาก ถ้าจับได้ไล่ทันจะถูกลงโทษรุนแรง”นายมีชัย กล่าว
ด้าน นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่างถึงหลักการของร่างกฎหมายกกต.ที่นำเสนอ ว่า ต้องการทำให้กกต.มีบทบาทสำคัญ 3 ข้อ คือ1. ทำให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งให้มากที่สุด เพราะถ้าใช้สิทธิกันมาก การทุจริตก็จะน้อย 2. ทำให้การใช้สิทธิอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจ และ3. ทำให้มีกลไกป้องกันการทุจริตเลือกตั้ง อยากขอเรียกร้องทุกพรรคการเมืองที่มา ร่วมกันแสดงความเห็นอย่างเต็มที่ ส่วนกรธ.ก็ควรรับฟังอย่างจริงใจ ไม่ใช่ใช้งบประมาณ จัดงานเป็นพิธิกรรม แล้วก็ไม่นำเอาข้อเสนอไปใช้ "แต่ร่างที่กกต.เสนอมาเป็นคนละเรื่องกับที่กรธ.เขียน ผมอาจทำให้ต้องวงแตกกันนิดนึง เช่น เราเสนอมาให้มีกกต.จังหวัดเหมือนเดิม แต่กรธ.เขียนกลับไม่มี แล้วมีผู้ตรวจการเลือกตั้งขึ้นมาแทน ผมว่ามันเป็นกลไกที่ใช้ไม่ได้กรธ.ควรเขียนกฎหมายแล้วเปิดให้เราได้วิจารณ์กัน แล้วผมจะวิจารณ์เอง ผมทำเพื่อบ้านเมือง ไม่ได้ทำเพื่อรักษาหน้าใคร กกต.เสนออะไรไม่เหมาะสมวิจารณ์ได้ อยากให้สังคมไทยใช้ความจริงมาคุยต่อหน้ากัน ไม่ใช่เกิดมานานกว่า ร่างกฎหมายมาหลายฉบับกว่า แล้วหมายความว่าต้องเก่งกว่า" นายสมชัย กล่าว