การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 วงเงิน 3,100,000 ล้านบาท วันสุดท้ายวานนี้( 2 มิ.ย. 64 ) หลังใช้เวลาการอภิปราย 3 วัน โดยฝ่ายค้านเน้นอภิปรายการจัดสรรงบประมาณของรัฐบาลที่ไม่เหมาะสมในบางกระทรวงและไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่การจัดหาวัคซีนที่มีความล่าช้า โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวขอบคุณสมาชิกที่ให้ความคิดเห็นและข้อสังเกตุต่างๆ ต่อร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 แม้จะต้องดำเนินการภายใต้การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และภายใต้งบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด รัฐบาลยังคงให้ความสำคัญกับประชาชน โดยจัดทำงบประมาณให้ต่อเนื่องจากปี 2564 ทั้งนี้เพื่อขับเคลื่อนประเทศให้พ้นวิกฤติของประเทศที่เกิดขึ้นและหวังว่าในปี 2565 สถานการณ์เศรษฐกิจโลกน่าจะดีขึ้นและขอฝากข้อท้วงติงของสมาชิกที่อภิปรายไว้ ให้กรรมาธิการนำไปพิจารณาเพื่อให้เกิดความรอบคอบเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน

ด้านนายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน อภิปรายสรุป เน้นที่การจัดสรรงบประมาณแบบขาดดุลของรัฐบาล ตลอด 7 ปี ทำให้เศรษฐกิจของประเทศตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ความเหลื่อมล้ำในสังคมเพิ่มสูงขึ้น หนี้สินภาคครัวเรือนและหนี้สาธารณะสูงขึ้น ตั้งแต่ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขัดกับวินัยการเงินการคลังอย่างชัดเจน ขณะที่การจัดเก็บรายได้ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ การจัดสรรค์งบประมาณที่ไม่เหมาะสมในบางกระทรวง โดยเฉพาะกระทรวงกลาโหม กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงศึกษาธิการ

จากนั้นที่ประชุมลงมติ เห็นชอบ รับหลักการวาระที่ 1 ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ด้วยคะแนน 269 เสียง ไม่เห็นด้วย 201 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ 72 คน กำหนดระยะเวลาแปรญัตติ 30 วัน ประชุมนัดแรกวันศุกร์ที่ 4 มิถุนายน 2564 จากนั้นประธานสั่งปิดการประชุม 00.04