โดยเมื่อเร็วๆนี้ นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมติดตามความก้าวหน้าการพัฒนายานพาหนะด้วยพลังงานไฟฟ้าตามนโยบายของรัฐบาลร่วมกับกรมเจ้าท่า โดยคาดว่า จะสามารถเปิดให้บริการเส้นทางคลองแสนแสบได้ภายในปลายปี 2564 ซึ่งขณะนี้ผู้ประกอบการได้ต่อเรือเหล็กแล้วจำนวน 5 ลำ และอยู่ระหว่างการปรับปรุงเทคโนโลยีแบตเตอรี่ให้เหมาะสมกับการใช้งาน
นอกจากนั้น กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้พัฒนาเส้นทางส่วนต่อขยายตั้งแต่ ช่วงวัดศรีบุญเรืองไปจนถึงมีนบุรี ระยะทาง 11.5 กม. ให้บริการด้วยเรือไฟฟ้าจำนวน 12 ลำ โดยจะเริ่มให้บริการภายในเดือนกันยายน 2564 นี้ ส่วนเส้นทางคลองผดุงกรุงเกษมนั้น ปัจจุบันมีให้บริการเรือไฟฟ้าให้บริการ 7 ลำ โดยยังไม่จัดเก็บค่าโดยสาร และในเดือนมิถุนายน เพิ่มเรือให้บริการเป็น 8 ลำ ไม่จัดเก็บค่าโดยสาร
ย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน เรือไฟฟ้าได้เริ่มให้บริการในเส้นทางแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ท่าเรือพระนั่งเกล้าไปถึงท่าเรือสาทร มีเรือให้บริการ 8 ลำ เก็บค่าโดยสาร 20 บ./คน/เที่ยว และเดือนมิถุนายน จะเพิ่มเรือให้บริการเป็น 12 ลำ เก็บค่าโดยสาร 20 บ./คน/เที่ยว ในเดือนกรกฎาคม เพิ่มเรือให้บริการ 23 ลำ ค่าโดยสาร 20 บ./คน/เที่ยว และในเดือนสิงหาคม มีเรือให้บริการ 23 ลำ โดยเก็บค่าโดยสารตามที่กรมเจ้าท่ากำหนด และมีเรือท่องเที่ยวอีกจำนวน 4 ลำ รวมมีเรือให้บริการทั้งสิ้น 27 ลำ
นายอธิรัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้เร่งผลักดันโครงการ Taxi Boat : Feeder เพื่อเชื่อมการเดินทางในแม่น้ำเจ้าพระยากับคลองแขนงต่างๆ ของ กทม.ให้เป็นระบบเดียวกัน โดยนำเรือไฟฟ้าหรือTaxi Boat มาให้บริการรับส่งประชาชนในคลองแขนง เพื่อเป็นการบริการประชาชนในการเดินทางให้สะดวกยิ่งขึ้น
สำหรับเส้นทางคลองดำเนินสะดวกจ.ราชบุรี จะเป็นโครงการนำร่องเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ปัจจุบันให้บริการจำนวน 3 ลำ และหากสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น กรมเจ้าท่ามีแผนเพิ่มจำนวนเรือไฟฟ้า รวมทั้งการขอความร่วมมือประชาชนที่ใช้เรือในการสัญจร ให้ปรับเปลี่ยนจากระบบเครื่องยนต์เป็นระบบไฟฟ้าต่อไป ขณะที่เส้นทางคลองอัมพวา จ.สมุทรสงคราม มีแผนพัฒนาเรือไฟฟ้าเพื่อใช้ในการท่องเที่ยว เพื่อลดผลกระทบต่อผู้อยู่อาศัยริมฝั่งคลอง โดยเฉพาะเรื่องของเสียงและเป็นการรักษาสภาพแวดล้อม
ด้านการท่องเที่ยวทางทะเลนั้น ปัจจุบันให้บริการจำนวน 1 ลำ ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เส้นทางท่าเรือสิชลถึงท่าเรือเขาพรายดำ และมีแผนเพิ่มเติมอีก 1 ลำ ภายในสิ้นปี 2564 แต่หากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ดีขึ้น ผู้ประกอบการมีแผนเพิ่มจำนวนเรือให้บริการจำนวน 60 ลำ