รัฐบาลโชว์ตัวเลขจ้างงานในระบบดีขึ้นต่อเนื่อง แม้เจอโควิดระบาดระลอก 3 ดันต่อ SME เข้าถึงสภาพคล่อง คิวต่อไปร้านอาหาร
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ที่ผ่านมา ภาครัฐได้ออกมาตรการเพื่อเข้าช่วยเหลือผู้ประกอบการในรูปแบบต่างๆ เพื่อประคับประคองธุรกิจให้ดำเนินต่อไปได้ โดยเฉพาะการเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งยอดการให้ความช่วยเหลือจากมาตรการสินเชื่อฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด19 ยอด ณ วันที่ 31 พ.ค. มีที่อนุมัติแล้วทั้งสิ้น 20,839 ล้านบาท
และในวันพรุ่งนี้ (7 มิ.ย.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เตรียมเปิดโครงการ “จับคู่กู้เงิน” โดยเป็นการประสานสถาบันการเงินเพื่อปล่อยกู้สำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารและภัตตาคาร ที่มีอยู่กว่าแสนแห่งทั่วประเทศ เป็นกรณีพิเศษ เช่นดอกเบี้ยต่ำและเงื่อนไขพิเศษ เพื่อให้ร้านอาหารเข้าถึงสภาพคล่อง ต่อลมหายใจให้ดำเนินธุรกิจต่อไปโดยไม่ต้องปลดลูกจ้าง
นางสาวรัชดา ยังเปิดเผยถึงสถานการณ์การจ้างงานแรงงานในระบบว่า ข้อมูลจากกระทรวงแรงงานแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่ดีขึ้น ดังเห็นได้จากตัวเลขผู้ประกันตนที่ว่างงานในแต่ละเดือนลดลง ต่อเนื่องนับจากต้นปี 64 กล่าวคือ เดือนม.ค.มี 95,213 ราย เม.ย. 49,277 ราย และ ณ วันที่ 19 พ.ค. 12,451 ราย
ในขณะที่มีผู้ประกันตนรายใหม่เพิ่มขึ้น เดือน ม.ค.มี 28,174 ราย เม.ย. 38,025 ราย และ ณ 19 พ.ค. 35,984 ราย อีกทั้งมีจำนวนผู้ประกันตนกลับเข้าสู่การจ้างงานในช่วงสี่เดือนแรกปีนี้ รวม 2.39 แสนราย ซึ่งใกล้เคียงกับตัวเลขรวมของปีที่แล้วทั้งปี อยู่ที่ 2.49 แสนราย
แม้จะเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นในการจ้างงานแรงงานในระบบ นายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงต่อกลุ่มธุรกิจ SMEs และขนาดไมโคร ที่มีการจ้างงานนอกระบบอยู่มาก จึงได้สั่งการให้หน่วยงานรัฐออกมาตรการบรรเทาภาระหนี้ และร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคาร เร่งดำเนินการช่วยเหลือผู้ประกอบการให้เข้าถึงสินเชื่อได้รวดเร็วขึ้น จะได้ยังคงธุรกิจและรักษาการจ้างงานในโอกาสเดียวกัน อีกทั้ง มุ่งเน้นการส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานให้สอดรับกับความต้องการของภาคธุรกิจควบคู่กันไป