ที่โรงงานน้ำตาลกุมภวาปี เทศบาลตำบลกุมภวาปี อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี บริษัท น้ำตาลกุมภวาปี จำกัด มีนัดหมายให้พนักงาน ลูกจ้างของบริษัทฯ มารับฟังคำชี้แจงการเลิกกิจการ หลังจากดำเนินกิจการมามากกว่า 58 ปี โดยติดป้ายแบ่งสถานที่ประชุมเป็น 6 จุด ทุกจุดติดจอภาพขนาดใหญ่ ถ่ายทอดการประชุมไปพร้อมกัน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ อส. ในเครื่องแบบมาดูแลความสงบ ไปพร้อมกับทีมของโรงงานกลุ่มชายในชุดซาฟารีสีดำ
พนักงาน-ลูกจ้าง รวม 280 คน รวมตัว บริเวณด้านหน้าอาคาร “สหภาพแรงงานน้ำตาลกุมภวาปี” ไม่ยอมแยกไปประชุมตามจุดต่าง ๆ ที่ทางโรงานจัดไว้ให้
นายชัยวัฒน์ ศรมณี สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จ.อุดรธานี เจรจากับตัวแทนพนักงาน ลูกจ้าง 5 คน ว่าเป็นมาตรการเว้นระยะห่าง ป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 ก่อนพนักงานจึงยอมเข้าประชุมแบบแยกจุด ก่อนที่ นายฮิเดยูกิ มุราคามิ ประธาน บ.น้ำตาลกุมภวาปี จก. เดินทางมาชี้แจงด้วยตนเองทั้งนี้ทางโรงงาน ออกประกาศ ฉบับแรกประกาศวันหยุดพิเศษ ระบุเป็นวันหยุดพักผ่อนประจำปี พนักงานประจำ 8 มิ.ย.-2 ก.ค.64 พนักงานชั่วคราว 8-12 มิ.ย.64 ที่ยังคงได้รับค่าจ้าง และพนักงานที่ยังคงต้องมาทำงาน ในช่วงวันหยุดพิเศษ บริษัทฯจะจ่ายค่าแรง และค่าล่วงเวลาในวันหยุด
ฉบับที่สอง เป็นจดหมายถึง เกษตรกรชาวไร่อ้อยครอบครัวตราซ้อนที่เคารพรักทุกท่าน ประกาศแจ้งหยุดกิจการ ที่ดำเนินกิจการมาเกินกว่าครึ่งศตวรรษ ขอขอบคุณเกษตรกรชาวไร่ ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีมาโดยตลอด
เอกสารดังกล่าวระบุว่า ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทตกอยู่ในสภาพแวดล้อมการดำเนินธุรกิจที่ยากลำบาก ดังนั้นในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นที่จัดขึ้นเมื่อวานนี้ จึงมีมติตัดสินใจจะหยุดกิจการน้ำตาลหลังจากนี้อย่างเป็นทางการ จากการตัดสินใจครั้งนี้ บริษัทได้ร้องขอบริษัท น้ำตาลเกษตรผล จำกัด ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทน้ำตาลตราช้อนเช่นเดียวกัน ให้รับการโอนย้ายสัญญาซื้อขายอ้อยที่บริษัททำร่วมกับเกษตรกรทุกท่าน ขอให้ทุกท่านโปรดเข้าใจและขอความร่วมมือมา ณ ที่นี้ สำหรับรายละเอียดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง บ.น้ำตาลเกษตรผล จก. จะแจ้งให้เกษตรกรทุก ท่านทราบต่อไป ขอแสดงความนับถือ
นายชัยวัฒน์ ศรมณี สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จ.อุดรธานี เปิดเผยหลังการประชุมว่า บริษัทฯชี้แจงว่าประสบปัญหาขาดทุน ติดต่อกันมารวม 6-7 ปีแล้ว ก็จะปิดกิจการทั้งหมด หรือเลิกกิจการ มีพนักงาน-ลูกจ้างอยู่รวม 280 คน ทั้งรายวันรายเดือนก็จะต้องเลิกจ้าง รวมทั้งลูกจ้างตามฤดูกาลอีกกว่า 1,000 คน ก็จะไม่มีการจ้าง โดยวันนี้ได้ประกาศหยุดกิจการ เขาก็ประกาศหยุดงานตั้งแต่วันนี้-2 ก.ค.64 แบบยังมีค่าจ้าง แต่ยังมีแรงงานที่สมัครใจ เข้ามาช่วยเก็บงาน ซึ่งก็จะได้รับค่าจ้างเพิ่มให้ ถือว่ามาทำงานในวันหยุด
“การเลิกจ้างจะเริ่มวันที่ 3 ก.ค.64 แบ่งเป็นการสมัครใจลาออก จะได้รับการชดเชย 3 ส่วน คือ เงินชดเชยตามกฎหมาย , เงินช่วยเหลือพิเศษ และเงินช่วยเหลือจากการลาออก คนที่สมัครใจลาออกให้ยื่นเรื่องวันนี้-12 มิ.ย.นี้ เมื่อเลยวันที่ 3 ก.ค.64 ถือว่าสิ้นสุดการเป็นพนักงาน หากไม่สมัครใจลาออก ก็จะดำเนินการเลิกจ้างตามกฎหมาย ซึ่งจะจ่ายชดเชยเฉพาะตามกฎหมาย ซึ่งมีจำนวนแตกต่างกันมาก อาทิ ผู้มีอายุงานมากกว่า 20 ปี ตามกฎหมายจะได้ชดเชย 400 วัน เขาจะบวกเพิ่มเงินช่วยพิเศษอีก 120 วัน และเงินช่วยเหลือการลาออก 90 วัน รวมแล้ว 610 วัน เขาเรียกโครงการนี้ว่า มาราอิ ...จากกันด้วยดีสู่อนาคตใหม่ ”
สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จ.อุดรธานี ตอบข้อซักถามว่า ชาวไร่อ้อยที่มีสัญญากับ รง.น้ำตาลกุมภวาปี จะโอนสัญญาไปที่ รง.น้ำตาลเกษตรผล ซึ่งเป็นโรงงานในกลุ่มเดียวกัน แต่จะไม่มีการโอนพนักงาน-ลูกจ้าง เพราะตำแหน่งงานมีไม่มาก ก็สามารถไปสมัครได้เท่านั้น ส่วนแรงงานตามฤดูกาล ช่วงฤดูหีบอ้อยราว 1,000 คน ไม่มีระเบียบกฎหมายกำหนด แต่ทางจังหวัดได้สั่งการสำรวจข้อมูลไว้ด้วย ขณะที่ปัญหาของพนักงาน-ลูกจ้าง เป็นห่วงคือ “สหกรณ์” จังหวัดได้ให้สหกรณ์จังหวัดมาช่วย
นายไพรวัลย์ ฤทธิมหา ประธานสหภาพแรงงานน้ำตาลกุมภวาปี และนายถิรวัฒน์ สุทธายาคม อดีตประธานฯ ร่วมกันเปิดเผยว่า โรงงานฯชี้แจ้งการปิดกิจการว่า ผู้ถือหุ้นบอกทำต่อไปไม่ไหว การประชุมเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีนโยบายและพิจารณาแล้วว่า ให้ปิดกิจการโรงงาน ปีนี้จะไม่มีการหีบอ้อย และสาเหตุเพราะจากการขาดทุนสะสม โรงงานจ้งว่าทางโรงงานพร้อมที่จะจ่ายค่าชดเชย ให้กับพนักงานทุกคนมากกว่ากฎหมายกำหนด
นายถิรวัฒน์ สุทธายาคม อดีตประธานสหภาพแรงงานน้ำตาลกุมภวาปี เปิดเผยว่า มันก็ยังเป็นเรื่องงงอยู่ และก็ตกใจอยู่เหมือนกัน ในเมื่อสภาวะมันเกิดขึ้นแบบนี้ ทางโรงงานนั้นไปต่อไม่ได้ ตนก็ต้องยอมรับกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น ถ้าถามว่าตนเสียใจไหม ตอบเลยว่าเสียใจจริง ๆ เพราะว่าตนนั้นอยู่ที่นี่มานานมาก มาอยู่ตั้งแต่ พ.ศ.2525 โรงงานนี้ให้ตนมาตลอด ส่งลูกเรียนหนังสือจนจบ แล้วมีครอบครัวไปหมดแล้ว ก็ได้จากโรงงานที่นี่ ตนสงสารพนักงานในโรงงานบางคน ลูกก็ยังเรียนหนังสืออยู่ ก็ต้องได้มาตั้งเริ่มต้นชีวิตกันใหม่ ตนนั้นมาจาก จ.กระบี่ และก็มาอยู่ที่นี่ 39 ปี และอีก 5 เดือนตนก็จะเกษียณแล้ว ตนนั้นมีความผูกพักกับโรงงานมากที่สุด