กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้รายงานสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศวันนี้ (10 มิ.ย.64) ว่า ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจายและมีฝนตกหนักบางแห่ง แล้วช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณ จ.น่าน 82 มิลลิเมตร // นครพนม 97 มิลลิเมตร // นนทบุรี 20 มิลลิเมตร // กาญจนบุรี 47 มิลลิเมตร // ตราด 91 มิลลิเมตร และระนอง 112 มิลลิเมตร โดยแม่น้ำสายหลักภาคเหนือและภาคใต้มีน้ำน้อยถึงปกติและแนวโน้มทรงตัว , ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกมีน้ำน้อยถึงปกติและแนวโน้มเพิ่มขึ้น , ภาคกลางมีน้ำน้อยถึงปกติและแนวโน้มลดลง และแม่น้ำโขงน้ำน้อยถึงปกติและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ภาพรวมปริมาณน้ำแหล่งน้ำทุกขนาด 36,952 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 45 และแหล่งน้ำขนาดใหญ่ 32,399 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 45 ขณะที่มีปริมาณน้ำไหลเข้าแหล่งน้ำ 56.53 ล้านลูกบาศก์เมตร แล้วมีน้ำระบายออก 91.96 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนจุดเฝ้าระวังน้ำน้อยยังคงอยู่ในพื้นที่ 7 แห่ง เฝ้าระวังน้ำมาก 1 แห่ง บริเวณอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล และเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำหลาก- ดินถล่มเกิดน้ำป่าไหลหลากบริเวณ จ.มุกดาหาร พร้อมคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก-ดินถล่มช่วง 2-3 วันนี้ ต้องเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำหลากบริเวณ จ.เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ตาก แม่ฮ่องสอน ระยอง จันทบุรี ตราด ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว พังงา และระนอง

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือพื้นที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำและเตรียมรับมืออุทกภัย อย่างกรมชลประทาน ช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภาวะฝนน้อยติดตั้งเครื่องสูบน้ำและสูบน้ำใน จ.พิษณุโลก และ จ.ชัยนาท ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรกว่า 9,000 ไร่ แล้วยังบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำให้ประชาชนในแต่ละพื้นที่รับทราบต่อเนื่อง พร้อมชี้แจงกติกาการสูบน้ำตามรอบเวรให้กับเกษตรกรผู้ใช้น้ำในพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ส่วนกรมเจ้าท่า เปิดหน่วยปฏิบัติงานขุดลอกลำน้ำเสียว ต.สระคู อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เพื่อแก้ปัญหาการตื้นเขินของลำน้ำ ที่เกิดจากตะกอนดินและวัชพืช ระหว่างวันที่ 20 เมษายน ถึง 10 กรกฎาคม 2564 ระยะทาง 1,800 เมตร ผลการขุดลอกเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ได้ระยะทาง 934 เมตร หรือร้อยละ 58.45 เพื่อช่วยให้ลำน้ำมีพื้นที่กักเก็บน้ำเพิ่มมากขึ้น สำหรับประชาชนใช้อุปโภค-บริโภคช่วงหน้าแล้ง และบรรเทาปัญหาน้ำท่วมช่วงหน้าน้ำหลาก