ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประภาส รักษาทรัพย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย พ.อ.ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รอง ผอ.กอ.รมน.ภาค 2 ส่วนแยก 2 ได้ร่วมประชุมหารือกับผู้แทนด่านศุลกากร, ด่านตรวจคนเข้าเมือง, อำเภอบ้านกรวด, ทหาร, ตำรวจ และหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดผังในการตั้งตู้คอนเทนเนอร์สำหรับปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ บริเวณจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ รองรับการยกระดับจากจุดผ่อนปรนเป็นด่านผ่านแดนถาวร ที่ทางจังหวัดและภาคส่วนต่างๆ ได้ร่วมกันเดินหน้าผลักดันมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 5 ปีแล้ว
ขณะนี้ทุกฝ่ายมีความพร้อมรับการยกระดับเป็นด่านผ่านแดนถาวร แต่ยังรอเพียงการอนุญาตใช้พื้นที่จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบพื้นที่ดังกล่าวเท่านั้น โดยเนื้อที่ที่จะขออนุญาตกรมอุทยานฯ ใช้ดำเนินการเปิดด่านผ่านแดนถาวรช่องสายตะกูดังกล่าวรวมทั้งหมด 250 ไร่ ซึ่งทางจังหวัดจะได้นำข้อสรุปที่ร่วมกันกำหนดแผนผังในครั้งนี้เสนอต่ออธิบดีกรมอุทยานฯ ในวันที่ 25 พ.ย.นี้ เพื่อพิจารณาเห็นชอบอนุญาตใช้พื้นที่ตามขั้นตอนต่อไป
สำหรับช่องสายตะกูดังกล่าวได้เปิดให้ประชาชนทั้งสองฝั่งซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าแบบมนุษยธรรมมาตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย. 2554 สัปดาห์ละ 1 วัน ก่อนยกระดับเป็นจุดผ่อนปรนพร้อมขยายวันเป็นสัปดาห์ละ 3 วัน คือ ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ในวันที่ 14 มิ.ย. 2557 กระทั่งต่อมาเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2557 ได้ขยายเปิดทำการค้าขายตลอดทั้งสัปดาห์มาจนถึงปัจจุบัน
จากการเก็บสถิติพบว่าเมื่อปีที่ผ่านมามียอดการจำหน่ายสินค้าที่จุดผ่อนปรนช่องสายตะกูดังกล่าวกว่า 300 ล้านบาท ส่วนมากเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง อุปกรณ์ก่อสร้าง และเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าหากยกระดับเป็นด่านผ่านแดนถาวรยอดเงินจะสะพัดมากขึ้น
นายประภาส รักษาทรัพย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า หากมีการยกระดับจากจุดผ่อนปรนช่องสายตะกูเป็นด่านผ่านแดนถาวรจะส่งผลดีทั้งด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวหากเปิดเป็นจุดผ่านแดนถาวรอย่างเป็นทางการแล้วจะเป็นการเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี เพราะไม่ใช่เฉพาะนักท่องเที่ยวจากกัมพูชาเท่านั้น แต่จะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอีกหลายประเทศจะเดินทางมาเที่ยวเพิ่มมากขึ้น เชื่อว่าในอนาคตเศรษฐกิจการค้าช่องสายตะกูดังกล่าวจะสะพัด เพราะปัจจุบันก็มีมูลค่าการค้าขายเดือนละกว่า 25 ล้านบาท