นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ รองอธิบดีกรมประมง กล่าวว่า กรมประมงมีนโยบายในการส่งเสริมและพัฒนางานวิจัยด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มศักยภาพในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำรองรับความต้องการของตลาดและผู้บริโภคพร้อมเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในตลาดโลก จึงให้ความสำคัญและสนับสนุนการนำเทคโนโลยีมาใช้สำหรับการปรับปรุงพันธุ์สัตว์น้ำ เพื่อพัฒนาสายพันธุ์ให้มีศักยภาพในการเพาะเลี้ยงและลดปัญหาการผสมเลือดชิดที่อาจส่งผลให้ความหลากหลายทางพันธุกรรมของสัตว์น้ำลดลง โดยกรมประมงได้ศึกษา วิจัยปรับปรุงสายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองต่อการเพาะเลี้ยงของเกษตรกรที่ต้องการพันธุ์กุ้งขาวคุณภาพดี เลี้ยงง่าย โตไว ไร้โรคและให้ผลผลิตสูง
ด้านนายกฤษณุพันธ์ โกเมนไปรรินทร์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำนครศรีธรรมราช กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางศูนย์ฯ ได้ดำเนินการทดลองปรับปรุงพันธุ์กุ้งขาวแวนนาไม มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 โดยรวบรวมประชากรกุ้งขาวจากในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช สงขลาและกระบี่ เพื่อนำมาผสมข้ามแหล่งพันธุ์และดำรงพันธุ์ไว้เรื่อยมาจนถึงรุ่นที่ 4 หรือ F4 หลังจากนั้น จึงได้มีการปรับปรุงพันธุ์และคัดสายพันธุ์ตามหลักพันธุศาสตร์ โดยใช้กุ้งขาว รุ่นที่ 4 เป็นประชากรพื้นฐาน หรือ Base Population จำนวน 250 คู่ เพื่อสร้างประชากรตั้งต้นหรือ รุ่น P0 จำนวน 50 ครอบครัว (50 แม่) พร้อมทำการทดสอบความต้านทานโรคตายด่วนในกุ้ง
สำหรับ “กุ้งขาวสิชล 1” ที่ทางศูนย์ฯ พัฒนาได้สำเร็จเป็นกุ้งที่ปลอดจากเชื้อที่กําหนด 8 โรค นอกจากนี้ยังพัฒนาพันธุ์จนมีการเจริญเติบโตด้านน้ำหนักเพิ่มขึ้นจากพันธุ์เดิมถึง 32.54–34.58 เปอร์เซ็นต์ มีประสิทธิภาพผลผลิตเฉลี่ย เท่ากับ 15.65 ตัน/ล้านตัว สามารถนําไปเลี้ยงและกระจายพันธุ์ได้ตอนกุ้งมีอายุ 90 วัน โดยอัตราการปล่อยที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 100,000–150,000 ตัว/ไร ความเค็มของน้ำระหว่าง 10–20 ppt ทั้งนี้ ผลผลิตที่ได้ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการและสภาพแวดล้อมในระหว่างการเลี้ยง รวมถึงการตรวจสุขภาพกุ้งอย่างสม่ำเสมอด้วยทั้งนี้ เกษตรกรที่สนใจ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำนครศรีธรรมราช กรมประมง โทรศัพท์ 075-536157 ในวันและเวลาราชการ