นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยคณะลงพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวเกาะพีพี ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ เพื่อตรวจเยี่ยมติดตามและรับฟังบรรยายสรุปการเตรียมความพร้อมของแหล่งท่องเที่ยว Sealed Routes ที่เกาะพีพี อ่าวไร่เลย์ ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมือง และเกาะไหง ตำบลเกาะลันตาใหญ่ อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ที่จะรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวยังจังหวัดภูเก็ต หรือโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวมายังจังหวัดกระบี่ ในช่วงที่ยังมีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมีพันตำรวจโท หม่อมหลวง กิตติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นางสาวศศิธร กิตติธรกุล นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ นำผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั้ง 3 แห่ง ร่วมให้การต้อนรับและรายงานผลการรองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย

โดยภาพร่วมแหล่งท่องเที่ยวทั้ง 3 แห่งของจังหวัดกระบี่ มีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ในการเตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งเกาะพีพี ที่มีประชากร 3,729 คน ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด 19 แล้ว 93.97 เปอร์เซ็นต์ เกาะไหงมีประชาชน 248 คน ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ และอ่าวไร่เลย์มีประชากร 1,942 คน ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 81.97 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาทางรถยนต์ สำนักงานขนส่งจังหวัดกระบี่ เป็นหน่วยงานควบคุมดูแล ส่วนทางเรือ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคกระบี่ เป็นผู้ควบคุมดูแล และท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ การท่าอากาศยานเป็นผู้ควบคุมดูแล สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยว ฝ่ายปกครองในพื้นที่ เป็นผู้ควบคุมดูแล

 ปัจจุบันสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวได้รับการประสานจากบริษัทนำเที่ยวจากต่างประเทศ ที่จะนำนักท่องเที่ยวเข้ามายังแหล่งท่องเที่ยว 3 แห่งของจังหวัดกระบี่ เชื่อมโยงภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ได้แก่ประเทศแคนนาดา/เยอรมัน/อิตาลี/ฝรั่งเศส/ อังกฤษ/ฟินแลนด์นอรเวร์/นิวซีแลนด์/สวีเดน/สเปน/เดนมาร์ก/รัสเซีย/ดูไบ/ ออสเตรเลีย/อิสราเอล/ฮ่องกง/และประเทศไต้หวัน

ภายหลังเสร็จสิ้นการรับฟังบรรยายสรุป รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่าความพร้อมของเกาะพีพี อ่าวไร่เลย์ เกาะไหง ใน 3 พื้นที่แรกของจังหวัดกระบี่ ที่จะให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสามารถเดินทางเข้ามาเที่ยวได้ คาดว่าภายในเดือนสิงหาคม 2564 แต่ถ้าหากว่ามีความพร้อมและไม่เกิดอุบัติเหตุอะไรในจังหวัดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ใน 2 -3 สัปดาห์ ตนจะนำเรื่องของจังหวัดกระบี่เข้าหารือศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ชุดเล็ก แล้วนำเข้าคณะรัฐมนตรี เพื่อจะเป็นการขยายฐานการท่องเที่ยวจากภูเก็ตเป็นซิวลูปมาที่จังหวัดกระบี่ ทั้ง 3 แห่ง

จากการหารือในวันนี้มีการตอบรับว่าทุกหน่วยงานมีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ ในพื้นที่ 3 แห่งท่องเที่ยวที่จะรับนักท่องเที่ยวในเบื้องต้น ซึ่งประชากรที่อยู่บนเกาะพีพีได้รับวัคซีนแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ส่วนที่เกาะๆไหงและอ่าวไร่เลย์ จะได้รับวัคซีนครบ 100 เปอร์เซ็นต์ อย่างช้าที่สุดวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 และเชื่อว่าจังหวัดกระบี่มีความพร้อมมากที่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬากล่าวอีกว่า แผนการรองรับหากเกิดเหตุฉุกเฉินในจังหวัดภูเก็ต เราสามารถโยกย้ายนักท่องเที่ยวที่ไม่มีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปที่กระบี่ได้ หรือนักท่องเที่ยวที่จะบินเข้ามาใหม่ก็สามารถเปิดใน 3 สถานที่นี้เป็นจุดต้อนรับนักท่องเที่ยวจุดใหม่เลย ซึ่งถึงเวลานั้นตนมั่นใจว่าทุกสถานที่ ที่กล่าวถึงพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว โดยเฉพาะเรื่องการรับวัคซีน ตรงนี้ทำอย่างไรให้คนไทยหรือชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ต่างๆ ได้รับความสบายใจ เป็นจุดที่สำคัญที่สุด ส่วนนักท่องเที่ยวมาเราก็ชอบจะได้ฟื้นฟูเศรษฐกิจให้เร็วขึ้น หากถ้าจะมาแล้วทำให้ประเทศไทยต้องลำบากโดยมีการเอาเชื้อแปลกเข้ามาระบาด ตนเชื่อว่าประเทศไทยหรือคนไทยก็คงไม่ยินดีที่จะต้อนรับ แต่วันนี้เรามุ่งหน้าในการที่จะเดินทางเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เพื่อเป็นการฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจของไทย โดยให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในประเทศ

ซึ่งในปี 2562 ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอย่างเดียว 2 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวในอันดามันทั้ง 6 จังหวัดมีรายได้การท่องเที่ยวจากชาวต่างชาติอย่างเดียวไม่ต่ำกว่า 7 แสนล้านบาท ซึ่งตรงนี้เป็นการตอบโจทน์เลยว่าอันดามันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวทั้งโลกต้องการที่จะมาเยือน เพราะฉะนั้นพวกเราในฐานะคนไทยที่เป็นเจ้าของพื้นที่ขอให้ช่วยกันดูแลนักท่องเที่ยว ช่วยกันป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด 19 และช่วยเจ้าหน้าที่ในการสอดส่องดูแล