นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ที่รุนแรงส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อในแต่ละวันพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่ในขณะนี้ ในส่วนของเจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทุกคนต่างรู้สึกห่วงใยพี่น้องคนไทยที่ต้องต่อสู้กับวิกฤติความยากลำบากที่กำลังเผชิญอยู่ จึงได้เดินหน้า “โครงการแบ่งปันน้ำใจ เกษตรไทยสู้ภัยโควิด-19” มาอย่างต่อเนื่อง
โดยได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตรทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางประสานเชื่อมโยง ส่งมอบสินค้าเกษตร และสินค้าอุปโภคบริโภคจากหน่วยงานในสังกัด ภาคีเครือข่าย และเกษตรกร ตลอดจนจัดซื้อสินค้าเกษตรจากเกษตรกรที่ประสบปัญหาสินค้าล้นตลาด ราคาตกต่ำ ซึ่งเป็นการช่วยบรรเทาปัญหาของเกษตรกรในช่วงการระบาดของโควิด – 19 ด้วยอีกทางหนึ่ง และนำสินค้าเกษตรคุณภาพ ไปสนับสนุนให้กับหน่วยงาน บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ตลอดจนประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยโควิด– 19 เพื่อแสดงไมตรีจิต เป็นกองเสบียง เป็นกำลังใจต่อกัน ภายใต้แคมเปญ “ยามประเทศมีภัยเกษตรไทยพร้อมเป็นกองเสบียง”
โดยล่าสุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ได้เดินทางไปส่งมอบสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์แปรรูปแก่โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน และโรงพยาบาลสนามเอราวัณ 1 เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย กล้วยหอม ลำไย แก้วมังกร มังคุด เงาะ แตงกวา มะเขือเปราะ ถั่วฝักยาว พริกขี้หนู กะเพรา คะน้า ฝักทอง ขนมปังกรอบมอลคิสท์ กาแฟสำเร็จรูป Moccona Trio 3 in 1 กาแฟดริฟ อเมซอน ซีอิ้วขาวเซิงโชวหวัง สูตรมาตรฐาน ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนจากกลุ่มเพื่อนเฉลิมชัยในการจัดซื้อสินค้าเกษตรเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร และยังได้รับการสนับสนุนสินค้าอุปโภคบริโภคจากภาคเอกชนอีกด้วย
ด้าน นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตรได้สั่งการไปยังหน่วยงานทั้งส่วนกลางและภูมิภาคให้ดำเนิน “โครงการแบ่งปันน้ำใจ เกษตรไทยสู้ภัยโควิด-19” ไปจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะคลี่คลายไปในทางดีขึ้น ตามข้อสั่งการของ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเป็นการส่งต่อกำลังใจไปยังผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ร่วมกันก้าวพ้นวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ไปด้วยกัน
ภาพรวมของโครงการฯ นั้น หน่วยงานในสังกัดกรมส่งเสริมการเกษตร ส่งมอบสินค้าเกษตรคุณภาพ ตลอดจนสินค้าอุปโภคบริโภคให้กับหน่วยงานและประชาชนที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ต่าง ๆ ไปแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 249 ครั้ง ใน 40 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสิงห์บุรี ลพบุรี เพชรบุรี กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ นครปฐม สมุทรสาคร ราชบุรี ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด ขอนแก่น บุรีรัมย์ หนองบัวลำภู มหาสารคาม กาฬสินธุ์ อุดรธานี บึงกาฬ ยโสธร เลย ชุมพร สงขลา พังงา กระบี่ ตรัง พัทลุง นครศรีธรรมราช ลำปาง ลำพูน พะเยา อุตรดิตถ์ แม่ฮ่องสอน นครสวรรค์ เชียงราย และกรุงเทพมหานคร