ด้วยเหตุผล “กระทรวงมหาดไทย” ได้เวลาเปลี่ยนผู้นำใกล้เวลาเกษียนราชการเบอร์หนึ่งฝ่ายข้าราชการประจำ เมื่อเจ้าของฉายาปลัดประเทศหรือ “บิ๊กฉิ่ง”ผู้หลากความสามารถนักประสานสิบทิศ ประเภทสั่ง 1 ได้ 2 “ฟูลออฟชั่น” อยู่ในตำนานของข้าราชการประจำชาวสิงห์คลองหลอดทำงานดีเลิศ สนองงานราชการฝ่ายการเมือง “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” บุรุษผู้นั้นคือ “ฉัตรชัย พรหมเลิศ” ปลัดกระทรวงมหาดไทย “สิงห์ดำ” รุ่น 32 จบการศึกคณะรัฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ต้องโบกมือลาตำแหน่งไปตามเงื่อนไขระเบียบข้าราชการพลเรือน ด้วยเหตุผลอายุราชการครบ 60 ปี
สำหรับแคนดิเดตตัวเต็งเข้าแข่งขันรอบนี้ล้วนเป็น “สิงห์ดำ” ขณะที่บรรดา “สิงห์แดง- สิงห์ทองสิงห์ขาว-สิงห์เขียว หรือสิงห์หลากสี” ล้วนอยู่นอกกฎกติกากฎเกณฑ์ ที่ไม่อาจได้รับการเสนอชื่อได้ พูดกันง่ายๆบุคคลเหล่านั้นล้วนอยู่นอกถ้ำกระทรวงคลองหลอด
จึงไม่มี “คุณสมบัติ”มีรายชื่อเข้าชิง โดยคุณสมบัติที่ฝ่ายการเมืองไม่ว่า ยุคใดสมัยใด มักยกมาอธิบายผ่านบอกกับสื่อกระจอกข่าว ขยายความสู่ประชาชนคนทั่วไป ในรูปแบบสุดคลาสสิกสั้นๆต้องเป็นบุคคลที่ มีความรู้ความสามารถ ประวัติรับราชการไม่ด้างพร้อย
นอกเหนือคุณสมบัติดังกล่าว หากยึดตามระเบียบราชการแล้วผู้ที่เข้าข่ายมานั่งเก้าอี้เป็น “ปลัดมท.” ต้องเคยมีตำแหน่งนั่งเก้าอี้เหล่านี้มาก่อน “รองปลัด-อธิบดี-ผู้ตรวจ” นั้นแค่เพียงน้ำจิ้มเท่านั้น
เข้าสู่ประเด็นหลักหลังจากขี่ม้าเลียบค่ายมานาน คลี่โพยบัญชีรายชื่อ โดยนับการเข้าสู่ครองเก้าอี้บริหารสูงหรือซี 10 คนแรก “ธนาคม จงจิระ” อธิบดีกรมการปกครอง “ สิงห์ดำ” รุ่น 32 เพื่อนสนิทร่วมรุ่น“บิ๊กฉิ่ง” ปลัดประเทศ “ธนาคม” เป็นซี 10 ในตำแหน่งผวจ.ลพบุรี ในปี 2556 เกษียณอายุราชการในปี 2565 เนื่องจากเกิดหลัง 2 ตุลาคม จึงได้โบนัสแถมให้ทำงานต่อไปอีก 1 ปี เรียกได้ว่า “เต็งหนึ่ง” รอบนี้
แน่นอนเต็งสอง “นิสิต จันทร์สมวงศ์” อธิบดีกรมที่ดิน สิงห์ดำรุ่น 33 เป็นซี 10 ในตำแหน่งผู้ตรวจราชการการกระทรวงมหาดไทย ในปี 2555 เกษียณราชการในปี 2565 ส่วนเต็งสามข้ามห้วยกระแสแรง เข้ามาชิงเก้าอี้ “จตุพร บุรุษพัฒน์” ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม “สิงห์ดำ” รุ่น 36 เกษียณราชการในปี 2567 อดีตเคยรับราชการกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ย้ายไปเติบใหญ่ ผงาดผ่านหลายเก้าอี้ที่ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม “ทส.”
ที่เหลือไม่ได้เป็นหนึ่งในสามแคนดิเดต ไล่เรียงล้วนเป็น “สิงห์ดำ” เริ่ม “ประยูร รัตนเสนีย์” อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สิงห์ดำ รุ่น 33 เป็นซี10 ครั้งแรกในตำแหน่ง ผวจ.พังงา ปี 2557 เกษียณอายุราชการ ปี 2565 รายต่อมา “บุญธรรม เลิศสุขีเกษม” อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สิงห์ดำรุ่น 34 เป็นซี 10 ครั้งแรก ในตำแหน่ผวจ.ยโสธร ปี 2560 เกษียณอายุราชการปี 2566 ตกหล่นไม่ได้ “พรพจน์ เพ็ญพาส” อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง จบวิศวจุฬาฯ นั่งเป็นซี10 ครั้งแรก ในตำแหน่งผวจ.สระแก้วปี 2560 เกษียณอายุราชการในปี 2569 นับอยู่กลุ่มสิงห์หลากสี แต่หลายคนรู้กันว่า คอนเนกชั่นเลือดสิงห์ดำเต็มตัว
ได้เวลาบุคคลเต็งตลอดเวลา ปิดจ๊อบรายชื่อสิงห์ดำคนสุดท้ายมหาเก่ง “สุทธิพงษ์ จุลเจริญ” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน สิงห์ดำ รุ่น 36 เป็นซี 10 ในตำแหน่ง ผวจ. นครนายก ปี 2553 เกษียณอายุราชการปี 2567
ในที่สุดแล้วบัญชีรายชื่อ “ปลัดกระทรวงมหาดไทย” ส้มจะไปหล่นที่ใคร ย่อมแสดงให้รู้ว่า บุคคลผู้นั้นมีคุณสมบัติเตะตา “ฝ่ายการเมือง” ผู้มากบารมีเคาะเลือกใช้ ไม่ว่า “พล.อ.ประยุทธ์- พล.อ.ประวิตร -พล.อ.อนุพงษ์”ล้วนผ่านการคัดจากพี่น้อง3ป.เลือกมาแล้วทั้งสิ้น...!!!
ด้วยเหตุผล “กระทรวงมหาดไทย” ได้เวลาเปลี่ยนผู้นำใกล้เวลาเกษียนราชการเบอร์หนึ่งฝ่ายข้าราชการประจำ เมื่อเจ้าของฉายาปลัดประเทศหรือ “บิ๊กฉิ่ง”ผู้หลากความสามารถนักประสานสิบทิศ ประเภทสั่ง 1 ได้ 2 “ฟูลออฟชั่น” อยู่ในตำนานของข้าราชการประจำชาวสิงห์คลองหลอดทำงานดีเลิศ สนองงานราชการฝ่ายการเมือง “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” บุรุษผู้นั้นคือ “ฉัตรชัย พรหมเลิศ” ปลัดกระทรวงมหาดไทย “สิงห์ดำ” รุ่น 32 จบการศึกคณะรัฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ต้องโบกมือลาตำแหน่งไปตามเงื่อนไขระเบียบข้าราชการพลเรือน ด้วยเหตุผลอายุราชการครบ 60 ปี
สำหรับแคนดิเดตตัวเต็งเข้าแข่งขันรอบนี้ล้วนเป็น “สิงห์ดำ” ขณะที่บรรดา “สิงห์แดง- สิงห์ทองสิงห์ขาว-สิงห์เขียว หรือสิงห์หลากสี” ล้วนอยู่นอกกฎกติกากฎเกณฑ์ ที่ไม่อาจได้รับการเสนอชื่อได้ พูดกันง่ายๆบุคคลเหล่านั้นล้วนอยู่นอกถ้ำกระทรวงคลองหลอ
จึงไม่มี “คุณสมบัติ”มีรายชื่อเข้าชิง โดยคุณสมบัติที่ฝ่ายการเมืองไม่ว่า ยุคใดสมัยใด มักยกมาอธิบายผ่านบอกกับสื่อกระจอกข่าว ขยายความสู่ประชาชนคนทั่วไป ในรูปแบบสุดคลาสสิกสั้นๆต้องเป็นบุคคลที่ มีความรู้ความสามารถ ประวัติรับราชการไม่ด้างพร้อนอกเหนือคุณสมบัติดังกล่าว หากยึดตามระเบียบราชการแล้วผู้ที่เข้าข่ายมานั่งเก้าอี้เป็น “ปลัดมท.” ต้องเคยมีตำแหน่งนั่งเก้าอี้เหล่านี้มาก่อน “รองปลัด-อธิบดี-ผู้ตรวจ” นั้นแค่เพียงน้ำจิ้มเท่านั้น
เข้าสู่ประเด็นหลักหลังจากขี่ม้าเลียบค่ายมานาน คลี่โพยบัญชีรายชื่อ โดยนับการเข้าสู่ครองเก้าอี้บริหารสูงหรือซี 10 คนแรก “ธนาคม จงจิระ” อธิบดีกรมการปกครอง “ สิงห์ดำ” รุ่น 32 เพื่อนสนิทร่วมรุ่น“บิ๊กฉิ่ง” ปลัดประเทศ “ธนาคม” เป็นซี 10 ในตำแหน่งผวจ.ลพบุรี ในปี 2556 เกษียณอายุราชการในปี 2565 เนื่องจากเกิดหลัง 2 ตุลาคม จึงได้โบนัสแถมให้ทำงานต่อไปอีก 1 ปี เรียกได้ว่า “เต็งหนึ่ง” รอบนี้
แน่นอนเต็งสอง “นิสิต จันทร์สมวงศ์” อธิบดีกรมที่ดิน สิงห์ดำรุ่น 33 เป็นซี 10 ในตำแหน่งผู้ตรวจราชการการกระทรวงมหาดไทย ในปี 2555 เกษียณราชการในปี 2565 ส่วนเต็งสามข้ามห้วยกระแสแรง เข้ามาชิงเก้าอี้ “จตุพร บุรุษพัฒน์” ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม “สิงห์ดำ” รุ่น 36 เกษียณราชการในปี 2567 อดีตเคยรับราชการกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ย้ายไปเติบใหญ่ ผงาดผ่านหลายเก้าอี้ที่ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม “ทส.”
ที่เหลือไม่ได้เป็นหนึ่งในสามแคนดิเดต ไล่เรียงล้วนเป็น “สิงห์ดำ” เริ่ม “ประยูร รัตนเสนีย์” อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สิงห์ดำ รุ่น 33 เป็นซี10 ครั้งแรกในตำแหน่ง ผวจ.พังงา ปี 2557 เกษียณอายุราชการ ปี 2565 รายต่อมา “บุญธรรม เลิศสุขีเกษม” อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สิงห์ดำรุ่น 34 เป็นซี 10 ครั้งแรก ในตำแหน่ง ผวจ.ยโสธร ปี 2560 เกษียณอายุราชการปี 2566 ตกหล่นไม่ได้ “พรพจน์ เพ็ญพาส” อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง จบวิศวจุฬาฯ นั่งเป็นซี10 ครั้งแรก ในตำแหน่งผวจ.สระแก้วปี 2560 เกษียณอายุราชการในปี 2569 นับอยู่กลุ่มสิงห์หลากสี แต่หลายคนรู้กันว่า คอนเนกชั่นเลือดสิงห์ดำเต็มตัว
ได้เวลาบุคคลเต็งตลอดเวลา ปิดจ๊อบรายชื่อสิงห์ดำคนสุดท้ายมหาเก่ง “สุทธิพงษ์ จุลเจริญ” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน สิงห์ดำ รุ่น 36 เป็นซี 10 ในตำแหน่ง ผวจ. นครนายก ปี 2553 เกษียณอายุราชการปี 2567
ในที่สุดแล้วบัญชีรายชื่อ “ปลัดกระทรวงมหาดไทย” ส้มจะไปหล่นที่ใคร ย่อมแสดงให้รู้ว่า บุคคลผู้นั้นมีคุณสมบัติเตะตา “ฝ่ายการเมือง” ผู้มากบารมีเคาะเลือกใช้ ไม่ว่า “พล.อ.ประยุทธ์- พล.อ.ประวิตร -พล.อ.อนุพงษ์”ล้วนผ่านการคัดจากพี่น้อง3ป.เลือกมาแล้วทั้งสิ้น...!!!