น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ดำเนินการจัดตั้งบริษัทนวัตกรรมของกลุ่มการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดย กฟผ. ถือหุ้นร้อยละ 40 ระยะเวลา 5 ปี (ปี2564 -2568) เงินลงทุนรวม 1,184 ล้านบาท โดยให้เบิกจ่ายเป็นรายปีจนครบวงเงินลงทุน 1,184 ล้านบาท ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ซึ่งการจัดตั้งบริษัทนวัตกรรมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้
1.ลงทุนใน Disruptive Technology เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่เข้ามาแทนที่เทคโนโลยีเดิม ที่จะส่งผลกระทบต่อ กฟผ. และธุรกิจพลังงานในอนาคต รวมถึงสามารถพัฒนาและต่อยอดงานวิจัยและนวัตกรรมในการแก้ไขปัญหาด้านต่างๆ ให้สามารถใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ได้
2.สร้างเครือข่ายนักวิจัย สถาบัน Startup และ Smart SMEs ภาคเอกชน ทั้งในและต่างประเทศ ในการดำเนินงานด้านนวัตกรรมและการลงทุนในโครงการนวัตกรรมต่างๆ โดยกำหนดอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น อุตสาหกรรมการผลิตพลังงานหมุนเวียน การซื้อขายไฟฟ้า ระบบกักเก็บพลังงาน โครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid) และยานยนต์ไฟฟ้า
สำหรับแผนการลงทุนของบริษัทนวัตกรรมในระยะ 5 ปีแรก (ปี 2564 – 2568) ประกอบด้วย 1.หน่วยงานสนับสนุนแนวคิดทางธุรกิจใหม่ๆ (Collaborator) 2.หน่วยงานเพื่อการบ่มเพาะธุรกิจ (Incubator) และหน่วยงานเพื่อเร่งการเติบโตธุรกิจ (Accelerator) 3.หน่วยงาน Corporate Venture Capital (CVC) เป็นหน่วยงานที่องค์กรด้านพลังงานที่จัดตั้งเพื่อลงทุนในบริษัทคลื่นลูกใหม่ (Startup) ช่วยสร้างรายได้รูปแบบใหม่แก่บริษัทแม่ และช่วยสร้างองค์ความรู้ความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยี
4.หน่วยงานเพื่อเตรียมการจัดตั้งโครงการวิจัยและการพัฒนา ซึ่งเป็นการลงทุนในโครงการนวัตกรรมที่เกิดขึ้นจากการวิจัยและพัฒนาของ กฟผ. จำนวน 7 โครงการ ได้แก่ (1) โครงการชุดอุปกรณ์ดัดแปลงยานยนต์ไฟฟ้า EV Kit (2) โครงการระบบตรวจสอบสายส่งอัจฉริยะ (3) โครงการนวัตกรรมเรือกำจัดขยะและผักตบชวา (4) โครงการหุ่นยนต์ทำความสะอาดลูกถ้วย (5) โครงการระบบกักเก็บพลังงาน (6) โครงการโปรแกรมวิเคราะห์และแสดงพิกัด และ (7) โครงการ Regional Energy Trading Company