พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ร่วมประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) ครั้งที่ 3/2564 โดยที่ประชุมได้รับทราบ รายงานผลการวิเคราะห์สถานการณ์ด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์ในประเทศไทย โดยมีข้อสังเกตดังนี้ 1) แนวโน้มสถานการณ์การค้ามนุษย์ในรูปแบบออนไลน์และแรงงานบังคับเพิ่มสูงขึ้น 2) การจำกัดการเคลื่อนที่และการสื่อสารของผู้เสียหายที่ถูกบังคับกักตัวในสถานคุ้มครองของรัฐ ควรมีการวิเคราะห์ผู้เสียหายเป็นรายบุคคล 3) การคัดกรองคดียังประสบปัญหาความชัดเจน ควรมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และ 4) การขาดแคลนล่ามผู้เชี่ยวชาญ ควรยกระดับการแก้ปัญหาร่วมกัน และรับทราบ TIP Report ประจำปี64 ของสหรัฐ ซึ่งปีนี้ปรับระดับประเทศไทยจากระดับ 2 (Tier 2)ไปอยู่ในระดับ 2 ที่ต้องจับตามอง (Tier 2 Watch List) โดยสหรัฐ ได้เห็นถึงความพยายาม อย่างมีนัยสำคัญของไทย พร้อมให้ข้อแนะนำเพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ให้บรรลุเป้าหมาย ต่อไป
นอกจากนี้ ปคม.ได้เห็นชอบแผนการขับเคลื่อนการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ประจำปี 64-65 และโครงการสำคัญ (Flagship) เพื่อแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ใน 3 ด้านได้แก่ 1.ด้านดำเนินคดี ให้ สตช.รับผิดชอบ 2.ด้านคุ้มครองช่วยเหลือ ให้ พม.รับผิดชอบ และ 3.ด้านป้องกันให้โรงงานรับผิดชอบ และเห็นชอบ แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ ร่วม ว่าด้วยการต่อต้านการค้ามนุษย์ไทย-สหรัฐ(ฝ่ายไทย) โดยมี พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ เป็นประธาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการต่อต้านการค้ามนุษย์ และขับเคลื่อนการดำเนินงาน ให้มีประสิทธิภาพ
จากนั้น ได้มีการประชุม คกก.ประสานและกำกับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ต่อเนื่องกัน โดยที่ประชุมได้เห็นชอบ แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ พัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ โดยมอบให้ พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ เป็นประธาน เพื่อมุ่งเน้นให้เป็นที่ยอมรับ และยกระดับสู่มาตรฐานสากล ยึดผู้เสียหายเป็นศูนย์กลาง และแก้ไขปัญหาให้ครอบคลุมทุกมิติ
พล.อ.ประวิตร ยังได้กำชับ คณะอนุกรรมการฯ ชุดใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในการต่อต้านการค้ามนุษย์ จะต้องเร่งรัดดำเนินงานให้เห็นผล เป็นรูปธรรม เพื่อแสดงความจริงใจ ต่อการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ให้หมดสิ้นไปจากประเทศไทย และต้องบังคับใช้กฎหมายที่เป็นธรรม และเด็ดขาดให้มากขึ้น พล.อ.ประวิตร ยังได้กล่าวให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ ให้มุ่งมั่น ทุ่มเท ในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ อย่างต่อเนื่อง โดยคำนึงหลักสิทธิมนุษยชน เป็นสำคัญ