นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า อาเซียนมีกำหนดจัดประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียน (SEOM) ครั้งที่ 3/52 ระหว่างวันที่ 2-4 สิงหาคม 2564 และการประชุมกับประเทศนอกภูมิภาค 13 ประเทศ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง สหรัฐฯ แคนาดา อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ รัสเซีย สหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร และสวิตเซอร์แลนด์ ในวันที่ 5, 11 และ 16 สิงหาคม 2564 ผ่านระบบประชุมทางไกล เพื่อเตรียมการสำหรับการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (AEM) ครั้งที่ 53 ในเดือนกันยายนนี้

นางอรมน กล่าวว่า การประชุม SEOM จะมีการติดตามการดำเนินงานสำคัญของอาเซียน เพื่อเร่งฟื้นเศรษฐกิจภูมิภาคจากการระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกทางการค้า เพื่อรักษาและส่งเสริมความเชื่อมโยงของห่วงโซ่การผลิต (Supply Chain) ซึ่งพิจารณาขยายบัญชีสินค้าจำเป็นที่อาเซียนจะไม่จำกัดการส่งออกในช่วงโควิดเพิ่มเติม นอกเหนือจากยาและเวชภัณฑ์ รวมทั้งความพยายามเพิ่มบทบาทอาเซียนเชิงรุกในการพัฒนาภูมิภาคให้ตอบรับกับแนวโน้มของโลก ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมความพร้อมด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และการพัฒนาสภาพแวดล้อมเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาค เพื่อมุ่งไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจในระยะยาว

นอกจากนี้ ที่ประชุมจะติดตามเร่งรัดการดำเนินงานตามแผนงานด้านเศรษฐกิจที่บรูไนฯ ในฐานะประธานอาเซียนผลักดันให้อาเซียนดำเนินการให้สำเร็จในปีนี้ ภายใต้แนวคิด "We care, we prepare, we prosper" โดยมียุทธศาสตร์ 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการฟื้นฟู ด้านการเป็นดิจิทัล และด้านความยั่งยืน รวม 13 ประเด็น เช่น การจัดทำเครื่องมือในการประเมินมาตรการที่มิใช่ภาษี (NTMs) ของประเทศสมาชิกอาเซียน การจัดทำแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวหลังการระบาดใหญ่ของโควิด-19 และการจัดทำกรอบเศรษฐกิจหมุนเวียนสำหรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เป็นต้น

อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการประชุมอาเซียนกับประเทศนอกภูมิภาค 13 ประเทศ มีประเด็นสำคัญในการประชุม เช่น การทบทวนความตกลงการค้าสินค้าภายใต้กรอบความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-อินเดีย การเปิดเสรีสินค้าเพิ่มเติมภายใต้พิธีสารยกระดับความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน และการเตรียมการเสนอรัฐมนตรีเศรษฐกิจพิจารณาความเป็นไปได้การเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-แคนาดา เป็นต้น

ทั้งนี้ ในปี 2563 การค้าระหว่างไทยกับอาเซียนมีมูลค่า 94,623 ล้านเหรียญสหรัฐ ไทยเกินดุล 16,284 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเป็นการส่งออกจากไทยไปอาเซียน มูลค่า 55,454 ล้านเหรียญสหรัฐ และการนำเข้าจากอาเซียน มูลค่า 39,169 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับในช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2564 มีมูลค่า 45,267 ล้านเหรียญสหรัฐ (+10.44%) จากช่วงเดียวกันของปี 2563 โดยไทยส่งออกไปอาเซียน มูลค่า 26,224 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าจากอาเซียน มูลค่า 19,042 ล้านเหรียญสหรัฐ ตลาดส่งออกและแหล่งนำเข้าสำคัญ ได้แก่ มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์