นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า แผนการเปิดพื้นที่รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ หลังจากเดินหน้าโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และสมุยพลัสโมเดล จังหวัดสุราษฎร์ธานี และเมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้อนุมัติการใช้สูตร 7+7 เที่ยวข้ามเกาะ ภายใต้รูปแบบตั้งต้นที่ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติจะต้องพักในภูเก็ตครบ 7 วันแรก หลังจากนั้น 8-14 วันหลัง จะสามารถเดินทางเที่ยวในอีก 3 จังหวัดได้ คือ เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ เขาหลัก จังหวัดพังงา เกาะพีพี เกาะไหง ไร่เลย์ จังหวัดกระบี่ และเกาะสมุย-เกาะพะงัน-เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นการเที่ยวได้แบบไม่ต้องกักตัว เท่ากับว่าขณะนี้สามารถเปิดพื้นที่เกาะรับนักท่องเที่ยวได้แล้ว 4 จังหวัด แผนต่อไปจะเปิดพื้นที่ที่พร้อมเพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติก่อน โดยไม่จำเป็นต้องเน้นเฉพาะจังหวัดหรือพื้นที่ใน 10 จังหวัดนำร่อง ที่เหลืออีก 6 จังหวัดนำร่องที่เหลือ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (กทม.) เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ชลบุรี และบุรีรัมย์ แต่จะเน้นพิจารณาจังหวัดที่มีความพร้อมเป็นหลัก โดยเฉพาะความพร้อมในเรื่องสถานการณ์การระบาดโควิดอยู่ในระดับต่ำ และคนในพื้นที่นั้นได้รับการฉีดวัคซีนครบ 70% แล้ว จึงยืนยันว่าขณะนี้ยังพยายามเดินตามแผนงานที่วางไว้อยู่ แต่ปัจจัยสำคัญที่สุด ที่จะสามารถทำได้ตามแผนคือ ควบคุมการระบาดโควิดในประเทศให้ได้ หรือการลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันลง และการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในประเทศให้เร็วที่สุด

“การลดจำนวนวันเที่ยวในภูเก็ต และเพิ่มการเที่ยวในจังหวัดอื่นๆ มากขึ้น จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจในการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะสนับสนุนให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติถึงเป้าหมายที่วางไว้ 1.2 ล้านคน ได้แน่นอน แต่หากภายใน 1-2 เดือนนี้ (สิงหาคม-กันยายน) เรายังไม่สามารถควบคุมการระบาดโควิดในประเทศได้ หรืออย่างน้อยต้องกดให้ตัวเลขผู้ติดเชื้ออยู่ในระดับต่ำกว่านี้ โดยหากไม่สามารถทำได้ การท่องเที่ยวจะน่าเป็นห่วงมาก เนื่องจากใกล้เข้าสู่ไตรมาส 4/2564 ซึ่งเป็นไตรมาสสุดท้ายของปีแล้ว โดยปกติไตรมาสสุดท้ายของทุกปี จะเป็นช่วงที่เกิดการเดินทางท่องเที่ยวสูงที่สุดเทียบกับทุกช่วงเวลาของทั้งปี ทำให้หากสถานการณ์ยังไม่สามารถควบคุมได้ การท่องเที่ยวไทยจะวูบยาวและรออีกทีเป็นปี 2565 ทีเดียว” นายพิพัฒน์กล่าว

นายพิพัฒน์กล่าวว่า รูปแบบการเดินทางท่องเที่ยวในสูตร 7+7 หรือการเที่ยวข้ามเกาะนั้น จะอนุญาตเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่พักในภูเก็ตครบ 7 วันแล้ว สามารถเดินทางไปพักในพื้นที่อื่นๆ ของจังหวัดที่กำหนดได้ อาทิ เขาหลัก จังหวัดพังงา เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ โดยหากเดินทางผ่านทางบก หรือทางน้ำ จะต้องใช้บริการรถขนส่ง หรือเรือขนส่ง ที่ได้มาตรฐานเอสเอชเอพลัสเท่านั้น และเข้าพักในโรงแรมหรือที่พักที่ได้มาตรฐานเอสเอชเอพลัสเท่านั้นเช่นกัน ซึ่งจะต้องพักในจังหวัดนั้นต่ออีก 8-14 วัน เพื่อให้ครบจำนวน 14 วันตามกำหนด หลังจากนั้นจึงจะสามารถเดินทางเที่ยวได้ทั่วประเทศไทยตามปกติ