ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลัง เป็นประธานและสักขีพยาน พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การพัฒนาสมุนไพรอย่างครบวงจร ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ภายใต้แผนพัฒนาการเกษตรในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ระหว่าง สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ณ ห้องประชุมไชยยงค์ ชูชาติ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ และความจำเป็นในการพัฒนาสมุนไพร ส.ป.ก. และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) จึงร่วมกันส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาสมุนไพรไทย ตลอดจนกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับสมุนไพรไทยอย่างครบวงจรในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในพื้นที่ EEC โดยจะร่วมกันพัฒนาตั้งแต่การเพาะปลูก การเก็บเกี่ยว การแปรรูป การจัดการ ไปจนถึงด้านการตลาด ด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่มาใช้ เพื่อให้ได้วัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพมาตรฐานระดับสากล สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่EEC อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ หน่วยงานทั้ง 2 ฝ่าย จะร่วมกันส่งเสริม สนับสนุนและพัฒนาสมุนไพรไทย ให้มีคุณภาพและได้มาตรฐานสากล ตั้งแต่การเพาะปลูกจนถึงการตลาด ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่ ตามบทบาท หน้าที่ และความชำนาญของแต่ละหน่วยงาน อันได้แก่
1. การศึกษาโมเดลธุรกิจที่เหมาะสม เพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนาสมุนไพรอย่างมีประสิทธิภาพและครบวงจร 2. สนับสนุนการใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน เพื่อปลูกพืชสมุนไพรในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม 3. สนับสนุนข้อมูลเกษตรกร ข้อมูลที่ดิน รวมทั้งข้อกฎหมายในเขตปฏิรูปที่ดิน เพื่อการผลิตและการพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ให้เป็นไปตามกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง นโยบายของหน่วยงาน หรือองค์กรที่เกี่ยวข้อง 4. ร่วมกันพิจารณาเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และพื้นที่ดำเนินการที่มีความพร้อม และ5. ประสานเครือข่ายในการวิจัยและพัฒนาต่อยอด ให้ตรงตามความต้องการของตลาด ตลอดจน สนับสนุนด้านการตลาดสมัยใหม่อย่างครบวงจร