ปากเสียงของ
คนท้องถิ่น
เพื่อการพัฒนาประเทศ
วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
อปท. นิวส์
เกี่ยวกับอปท. นิวส์
โปรไฟล์ผู้บริหาร
ข่าวสาร
ข่าวเด่น / ไฮไลท์
ความสัมพันธ์ไทย - จีน และ เศรษฐกิจเพื่อนบ้าน
คอลัมนิสต์ / บทวิเคราะห์
สังคม / บุคคล
ท้องถิ่นไทย
ท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ
การเมือง / การปกครอง
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก
ธรรมาภิบาล
พลังงาน / สิ่งแวดล้อม
คุณภาพชีวิต
เศรษฐกิจชุมชน
เกษตรนำไทย
สื่อสาร - คมนาคม
ท่องเที่ยว
ข่าววงใน!!!
ปฏิทินข่าว
อปท.นิวส์โพล
ข่าวย้อนหลัง
วิดีโอ
ฉบับย้อนหลัง
สมัครสมาชิก
ติดต่อโฆษณา
ติดต่อเรา
ร่วมงานกับเรา
พลังงาน / สิ่งแวดล้อม
ย้อนกลับ
สทนช. เตรียมดันสู่แผนปฏิบัติ...จบปัญหาท่วม-แล้ง
05 ก.ย. 2564
สทนช. เตรียมส่งต่อแผนหลักบริหารจัดการน้ำกลุ่มลุ่มน้ำภาคอีสาน และแผนปฏิบัติการ 5 ปีให้หน่วยน้ำ ครอบคลุมการแก้ปัญหาตามแผนแม่บทน้ำ 20 ปี ทั้ง 6 ด้าน พร้อมวางแผนจัดลำดับโครงการตามความจำเป็นเร่งด่วน ชี้ประโยชน์หากดำเนินโครงการตามแผน จะช่วยแก้ปัญหาน้ำต้นทุนและลดปัญหาอุทกภัยใหญ่ ส่งต่อประโยชน์ให้ชาวอีสานได้อย่างยั่งยืน ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการศึกษาเพื่อจัดทำแผนหลักบริหารจัดการทรัพยากรน้ำกลุ่มลุ่มน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ว่า ลุ่มน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีพื้นที่รวมประมาณ 104 ล้านไร่ มีลุ่มน้ำสำคัญ 3 ลุ่มน้ำ คือ ลุ่มน้ำชี ลุ่มน้ำมูล และลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมักประสบกับสภาพทั้งปัญหาภัยแล้ง-น้ำท่วม ปัญหาโครงสร้างการจัดการน้ำ และปัญหาคุณภาพน้ำ โดยพบว่าจากพื้นที่ Area Based อยู่ในภาคอีสาน 16 พื้นที่ เป็นพื้นที่ที่ปัญหาด้านน้ำถึง 14 พื้นที่ แบ่งเป็น พื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมและภัยแล้ง 13 พื้นที่ อาทิ ลุ่มน้ำโมงตอนบน ลุ่มน้ำห้วยหลวง ลุ่มน้ำแม่น้ำสงคราม ลุ่มน้ำพุง-น้ำก่ำ ลุ่มน้ำชีตอนบน ลุ่มน้ำชีตอนกลาง ลุ่มน้ำมูล และ เมืองบุรีรัมย์-สุรินทร์ รวม 11.7 ล้านไร่ พื้นที่เสี่ยงภัยแล้ง 1 พื้นที่ คือ ลุ่มน้ำเลยตอนล่าง มีพื้นที่ 0.063 ล้านไร่ และเขตเศรษฐกิจพิเศษ 2 พื้นที่ ได้แก่ นครพนม และ มุกดาหาร รวม 0.042 ล้านไร่ ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นระบบและความจำเป็นเร่งด่วน สทนช. ได้ดำเนินโครงการศึกษาจัดทำแผนหลักการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำกลุ่มลุ่มน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และแผนปฏิบัติการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 5 ปี ครอบคลุมทั้ง 6 ด้าน สอดคล้องตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) พร้อมจัดลำดับความสำคัญโครงการตามความเร่งด่วน โดยกำหนดระยะเวลาของแผนพัฒนา ตั้งแต่ปี 2566-2585 อาทิ การเพิ่มขีดความสามารถการเข้าถึงน้ำอุปโภคบริโภคมีโครงการเร่งด่วน เช่น ขยายกำลังผลิตประปาภูมิภาคและประปาหมู่บ้าน ปรับปรุงระบบประปาหมู่บ้าน ติดตั้งเครื่องกรองน้ำดื่มให้ครบทุกหมู่บ้าน โรงเรียน เป็นต้น การสร้างความมั่นคงของน้ำภาคการผลิต อาทิ การพัฒนาแหล่งเก็บกักน้ำ ระบบส่งน้ำใหม่ โดยแผนระยะ 5 ปี มีทั้งสิ้น 404 โครงการ พื้นที่รับประโยชน์ 411,432 ไร่ และโครงการผันน้ำและเชื่อมโยงน้ำ ระยะ 5 ปี 46 โครงการ พื้นที่รับประโยชน์ 32,100 ไร่ ที่สำคัญคือการจัดการน้ำท่วมและอุทกภัยโดยสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมและระบายน้ำ เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ และการอนุรักษ์ฟื้นฟูสภาพป่าต้นน้ำที่เสื่อมโทรม และป้องกันการพังทลายของดินควบคู่กันด้วย พร้อมกันนี้ ยังมีการศึกษาความเป็นไปได้ของแนวทางพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ที่ยังไม่สามารถพัฒนาได้ตามกรอบงบประมาณปกติ เพื่อให้สามารถพัฒนาโครงการได้เร็วขึ้นเพื่อให้สามารถพัฒนาโครงการได้เร็วขึ้นเต็มศักยภาพพื้นที่ด้วย หากดำเนินการตามแผนงานที่ศึกษาวางไว้ข้างต้น จะช่วยให้พื้นที่กลุ่มลุ่มน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีน้ำต้นทุนที่อุดมสมบูรณ์จากการพัฒนานำน้ำจากลำน้ำสาขาแม่น้ำโขงและจากแม่น้ำโขงเข้ามาในพื้นที่ รวมทั้งการแก้ไขปัญหาการระบายน้ำในพื้นที่ จะช่วยลดปัญหาการเกิดอุทกภัยขนาดใหญ่อย่างเป็นรูปธรรม จากทั้งโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของทางน้ำเดิม และการเพิ่มทางระบายน้ำใหม่ให้ไหลลงสู่พื้นที่ด้านท้ายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีความมั่นคงด้านน้ำและลดความเสียหายทั้งด้านอุทกภัยและภัยแล้งได้อย่างยั่งยืน “แม้จะมีข้อจำกัดในการเพิ่มแหล่งเก็บกักน้ำขนาดใหญ่ แต่รัฐบาลโดยพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างด้านน้ำภายใต้แผนแม่บทน้ำฯ 20 ปีให้เป็นไปตามเป้าหมาย ได้ผลลัพธ์ต่อความมั่นคงน้ำของประเทศ และประโยชน์กับประชาชนอย่างครอบคลุมทุกพื้นที่ ซึ่งภาคอีสานมีการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็กในพื้นที่หาน้ำยาก ตามที่รัฐบาลให้การสนับสนุนงบกลางในช่วงปี 2563 -2564 อาทิ โครงการก่อสร้างระบบกระจายน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่หาน้ำยากในพื้นที่บ้านเหนือ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา สามารถเก็บกักน้ำได้กว่า 162,000 ลบ.ม./ปี ประชาชนได้รับประโยชน์ 104 ครัวเรือน ครอบคลุมพื้นที่ 280 ไร่ จึงมั่นใจได้ว่าหากดำเนินการโครงการต่าง ๆ ตามแผนหลักฯ 20 ปี และแผนปฏิบัติการฯ 5 ปี จะช่วยเพิ่มความมั่นคงให้น้ำต้นทุนให้แก่ภาคอีสานได้มากขึ้น ลดปัญหาอุทกภัย และเพิ่มประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหาน้ำครบทุกมิติ” ดร.สมเกียรติ กล่าว ดร.สมเกียรติ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับสถานการณ์น้ำของภาคตะวันออกเฉียงเหนือในปัจจุบัน ซึ่งมีแหล่งน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 13 แห่ง ปัจจุบันมีปริมาณน้ำรวม 3,740 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 43 จากการคาดการณ์ ณ วันที่ 1 พ.ย.64 จะมีปริมาณน้ำรวม 5,405 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 65 โดยในช่วงเดือนตั้งแต่เดือน ก.ย.64 มีอ่างเก็บน้ำที่มีแนวโน้มปริมาณน้ำเกินเกณฑ์ควบคุม (Upper Rule Curve) จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ เขื่อนลำพระเพลิง เขื่อนลำตะคอง และเขื่อนมูลบน ซึ่งได้เน้นย้ำกับกรมชลประทานในการบริหารจัดการน้ำไม่ให้ส่งผลกระทบในช่วงฤดูฝน และขณะนี้เดียวกันยังสามารถสนับสนุนน้ำเพื่อกิจกรรมต่างๆ ในพื้นที่ได้ตลอดฤดูแล้งที่จะถึงนี้ ซึ่งถือว่าอีสานปีนี้น้ำต้นทุนค่อนข้างดี แต่ก็ต้องระมัดระวังการใช้น้ำเนื่องจากคาดการณ์ฝนในปี 2565 ที่จะมีปริมาณฝนน้อยกว่าค่าเฉลี่ยด้วยเช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
MEA ลงพื้นที่ตรวจสอบความมั...
19 พ.ค. 2568
กลุ่มบริษัทบางจากพร้อมเดิน...
29 เม.ย. 2568
OR ยืนยันสถานีบริการ พีทีท...
05 มิ.ย. 2568
GPSC ร่วมบรรยายพิเศษนวัตกร...
28 พ.ค. 2568
กรมชลประทานเดินหน้าศึกษาปร...
09 เม.ย. 2568
ภูมิธรรม เผย ทหาร ระดมเครื...
25 พ.ค. 2568
หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
ฉบับที่ 454 ปักษ์หลัง
วันที่ 16 - 30 มิถุนายน 2568
อปท.นิวส์
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก
ดูทั้งหมด
วิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายก อบจ.พัทลุง “คิดด้วยกัน ทำด้วยกัน”
17 มิ.ย. 2568
หากจะหันไปมองการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ อบจ. ที่ผ่านมาหมาดๆ เมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา ใน 47 จังหวัดทั่วประเทศ กล่าวได้ว่า กลุ่ม “บ้านใหญ่” กวาดไปได้เป็นส่วนใหญ่ตามคาด และก็มีจำนวนถึง 29 คน ที่คว้าชัยการเลือกตั้งต...