กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้รายงานสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศวันนี้ (6 ก.ย.64) ว่า ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกมีฝนตกหนักบางแห่ง แล้วช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณ จ.ลำปาง 64 มิลลิเมตร // บึงกาฬ 140 มิลลิเมตร // กรุงเทพมหานคร 24 มิลลิเมตร // กาญจนบุรี 15 มิลลิเมตร // นครนายก 38 มิลลิเมตร และยะลา 35 มิลลิเมตร โดยแม่น้ำสายหลักทุกภาคส่วนใหญ่น้ำน้อยถึงมากและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ภาพรวมปริมาณน้ำทั้งประเทศ 42,778 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 52 และแหล่งน้ำขนาดใหญ่ 37,960 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 53 ส่วนจุดเฝ้าระวังน้ำน้อยยังคงอยู่ในพื้นที่ 11 แห่ง เฝ้าระวังน้ำมาก 2 แห่ง บริเวณเขื่อนนฤบดินทรจินดาและเขื่อนมูลบน พร้อมคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก-ดินถล่มช่วง 2-3 วันนี้ ต้องเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณ จ.เชียงใหม่ เชียงราย น่าน พะเยา ตาก เพชรบูรณ์ กาญจนบุรี จันทบุรี และตราด รวมทั้ง ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง น้ำหลาก และดินถล่มในพื้นที่ จ.พิษณุโลก เลย และนครราชสีมา

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ยังได้ติดตามระดับน้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอาจกระทบพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จากสถานการณ์ฝนตกหนักและมีน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาไหลลงสู่บริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 5 กันยายนบริเวณ สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 841 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มาสมทบกับแม่น้ำสะแกกรังก่อนจะไหลลงสู่บริเวณเขื่อนเจ้าพระยาที่มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 563 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที คาดว่า ปริมาณน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในเกณฑ์ ประมาณ 600 –700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะส่งผลให้ระดับน้ำบริเวณด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ไปจนถึง บริเวณ ต.กระทุ่ม ต.หัวเวียง อ.เสนา และ ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น

ทั้งนี้ กรมชลประทาน จะควบคุมปริมาณน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ดังกล่าว โดยไม่ให้ส่งผลต่อพื้นที่เกษตร เนื่องจากช่วง 2-3 วันนี้ พื้นที่ตอนบนลุ่มน้ำเจ้าพระยายังคงมีฝนตกหนักต่อเนื่อง อาจทำให้ปริมาณน้ำที่จะไหลงสู่เหนือเขื่อนเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น เบื้องต้น กอนช.ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและปรับแผนบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เพื่อป้องกันและลดผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาด้วย