โดย นายไทกร กล่าวว่า สืบเนื่องจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์มนการบกพร่องในการกำกับดูแลสำนักตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และไม่กำกับให้สตช.ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างโครงการ 191 มูลค่า 7,000 ล้านบาทให้เป็นไปโดยความสุจริต มีการอาจนำข้อมูลทีโออาร์ (TOR) ที่ยังไม่ได้มีการลงนามจากคณะกรรมการไปให้บริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งบริษัทแห่งนั้นก็ได้รับการเปิดเผยในสภาผู้แทนราษฎร มีส่วนเกี่ยวข้องสำคัญกับแกนนำรัฐบาลทั้งพล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ดังนั้นจึงเป็นบทชัดเจนว่าวันนี้การกระทำความผิดของสตช.ได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว ไม่มีการยกเลิกการประมูลรวมทั้งมีการผลักดันให้การประมูลเร็วขึ้น ก่อนที่ผู้ใหญ่บางคนในสตช.จะเกษียณ ฉะนั้นเพื่อความยุติธรรมและเพื่อเป็นการปกป้องภาษีประชาชน จึงนำหลักฐานและข้อเรียกร้องมามอบให้กับพล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ ในฐานะประธาน กมธ.ให้ดำเนินการสอบสวนเอาผิดข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่และพล.อ.ประยุทธ์ในฐานะเป็นผู้กำกับดูแลสตช.
ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ตนในฐานะอดีตผบ.ตร.ได้เข้าใจเป็นอย่างดีถึงกระบวนการขั้นตอนที่ดำเนินการและอำนาจของผบ.ตร.ไม่เพียงพอที่จะเป็นผู้อนุมัติโครงการนี้ ซึ่งผู้ที่จะอนุมัติโครงการได้จะต้องรับผิดชอบด้วย ซึ่งตนจะดำเนินการเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด โดยเรื่องนี้เป็นความเดือดร้อนของประชาชนในเรื่องทุจริตคอรัปชั่น จะรีบนำเรื่องนี้ไปดำเนินการ ซึ่งวันนี้อาจจะขอมติได้เลยเพื่อเริ่มดำเนินการศึกษาข้อเท็จจริง เบื้องต้นจะไปดูรายละเอียดหนังสือที่นายไทกรมอบให้ว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้องบ้าง โดยเฉพาะกรรมการ ประธานกรรมการตรวจสอบทีโออาร์และคณะกรรมการประกวดราคา รวมทั้งผบ.ตร.และผู้อนุมัติคือนายกรัฐมนตรี