นางอภิรดี  ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศขยายความร่วมมือภาคเอกชนเพื่อพัฒนาตลาดสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับสมุนไพรไทยภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมและการตลาดสมุนไพรให้มีคุณภาพระดับสากลซึ่งเน้นความร่วมมือตามแนวคิดประชารัฐโดยให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศหารือร่วมกับโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรทั้งในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการพัฒนาช่องทางการตลาดสมุนไพรไทยในต่างประเทศ ซึ่งโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรมีศักยภาพสูงมากในด้านการผลิต การวิจัยสมุนไพรไทย อีกทั้งมุ่งเน้นการสร้างแบรนด์สินค้าเพื่อเจาะตลาดระดับบน

“กระทรวงพาณิชย์ในฐานะหน่วยงานหลักด้านการส่งเสริมการตลาดสมุนไพรไทยจะใช้แนวทาง Demand Driven หรือการขับเคลื่อนธุรกิจการค้าภายใต้ความต้องการของตลาดโลกในการกำหนดทิศทางและผลักดันสมุนไพรไทยด้านการตลาดต่างประเทศ ตั้งแต่การกำหนดกลยุทธ์ การเชื่อมโยงบูรณาการระหว่างกระทรวงต่างๆ การเพิ่มช่องทางการตลาดและกระจายสินค้าเชิงรุกและการยกระดับแบรนด์สินค้าและบริการสมุนไพรไทยสู่ตลาดโลก ซึ่งกระทรวงเห็นว่า นอกจากสินค้าสมุนไพรของโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรที่มีคุณภาพและหลากหลายแล้ว โรงพยาบาลยังมีศักยภาพด้านการบริการสูงเช่นกัน สามารถขยายสู่ธุรกิจแฟรนไชส์ทั้งร้านจำหน่ายสินค้า ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ โรงเรียนสอนนวดแผนไทย และสปาไทยได้” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าว

สำหรับระยะแรก (Quick Win) ในปี 2560 กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศสามารถสนับสนุนและส่งเสริมด้านการตลาดต่างประเทศผ่านโครงการพัฒนาสินค้าและตลาดผู้สูงอายุ (60+) และโครงการงานแสดงสินค้านานาชาติในประเทศ ซึ่งจะมีการติดตามผลและให้คำปรึกษาแนะนำอย่างใกล้ชิด โดยผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพสามารถผลักดันสู่ตลาดต่างประเทศของโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรประกอบด้วย เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากสมุนไพร เครื่องดื่มสมุนไพร และการให้บริการสปา

นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวเสริมว่า “ขณะนี้โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรอยู่ระหว่างการรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญฝรั่งเศส ตามโครงการพัฒนาสินค้าและตลาดผู้สูงอายุ หรือโครงการ 60+ หมวดสินค้าสุขภาพและความงาม และเข้าสู่กระบวนการพัฒนาสินค้าแบบครบวงจร ตั้งแต่การวางแนวความคิดของตราสินค้า การสร้างแบรนด์ การสร้าง Story ให้สินค้า การออกแบบบรรจุภัณฑ์ การวิเคราะห์กลุ่มลูกค้า และช่องทางเข้าสู่ตลาดระดับบนในต่างประเทศ โดยมีจุดขายเป็นสมุนไพรไทย เมื่อพัฒนาสินค้าได้ตรงกับความต้องการของตลาดแล้ว จะนำสินค้าทดสอบตลาดในงานแสดงสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ประชาสัมพันธ์ในและต่างประเทศ    ผ่านช่องทางต่างๆ รวมทั้งเว็บไซต์ 60plusthailand.com เฟสบุ๊ค60+project เพื่อขยายผลต่อไป”

ด้านการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติในประเทศ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้ให้คำแนะนำเรื่องการปรับภาพลักษณ์สินค้าและบริการ การนำเสนอแบรนด์อภัยภูเบศร์รูปแบบใหม่ การเตรียมความพร้อมด้านการเจรจาการค้าและด้านโลจิสติกส์ ตลอดจนการประชาสัมพันธ์เชิญชวนผู้ซื้อ   จากต่างประเทศให้เดินทางมาเจรจาการค้า ประกอบด้วย งานแสดงสินค้า BIG + BIH จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-23 เมษายน 2560 ณ ไบเทค บางนา จัดแสดงในโซนWellness และงานแสดงสินค้า Thaifex – World of Food Asia ระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม – 4 มิถุนายน 2560 ณ อิมแพค เมืองทองธานี จัดแสดงภายใต้โครงการส่งเสริมสมุนไพรไทยที่ใช้รับประทาน

นอกจากนี้ กิจกรรมจับคู่ธุรกิจอื่นๆ (Business Matching) ในต่างประเทศที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศสนับสนุนสินค้าและบริการที่เกี่ยวกับสมุนไพรไทย ได้แก่ การนำผู้ประกอบการเข้าร่วมงาน Beautyworld สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ งานCosmoprof เมืองฮ่องกง งาน Top Thai Brands และงาน Thailand Week ในประเทศเป้าหมายต่างๆ เป็นต้น

ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2559 (มกราคม – ตุลาคม) ไทยส่งออกสมุนไพรมูลค่ากว่า 510  ล้านบาท และส่งออกผลิตภัณฑ์สปาที่มีส่วนผสมสมุนไพรมูลค่ากว่า 1,300 ล้านบาท โดยมีตลาดหลัก ได้แก่ ญี่ปุ่น และประเทศในกลุ่ม CLMV ตลาดรองได้แก่ จีน ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย ปัญหาและอุปสรรคหลักของการส่งออกสมุนไพร ได้แก่ กฎระเบียบที่เข้มงวดในการนำเข้าของประเทศคู่ค้า