นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้รับรายงานสถานบริการที่ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักจำนวน 2 แห่ง คือ โรงพยาบาลสุโขทัย น้ำท่วมทางเข้าและบริเวณโดยรอบ ยังสามารถเปิดให้บริการได้ปกติ และโรงพยาบาลบำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ น้ำท่วมอาคารบริการชั้น 1 สูงประมาณ 80 เซนติเมตร และบริเวณโดยรอบ ทำให้ต้องปิดบริการ ได้รับรายงานจากนายแพทย์พงศ์เกษม ไข่มุกด์ ผู้ตรวจราชการเขตสุขภาพที่ 9 ว่า ผู้ป่วยในโรงพยาบาลมีทั้งหมด 40 ราย ส่งกลับบ้าน 14 ราย เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วยอีก 26 รายไปยังโรงพยาบาลจัตุรัสที่เป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายดูแลรักษา และส่งต่อไปโรงพยาบาลเนินสง่า โรงพยาบาลบ้านเขว้า โรงพยาบาลชัยภูมิ โดยผู้ป่วย 16 รายอาการไม่รุนแรง ช่วยเหลือตัวเองได้ดี มีผู้ป่วยที่ต้องให้ออกซิเจน 3 ราย และผู้ป่วยโควิด 19 จำนวน 7 ราย ซึ่งได้รับการช่วยเหลือจากทีมกู้ภัยมูลนิธิต่าง ๆ เรือและรถยกสูงของทหาร มีนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เป็นผู้บัญชาการในพื้นที่

          สำหรับการประเมินความเสียหายเบื้องต้น มีห้องเอกซเรย์ ห้องแลป ห้องคลอด ไม่สามารถใช้การได้ สามารถย้ายเครื่องมือบางส่วนไปชั้น 2 ได้ คลังเวชภัณฑ์ คลังวัสดุการแพทย์ เครื่องซักผ้า อบแห้ง เครื่องปั่นไฟฟ้าสำรอง 2 เครื่องได้รับความเสียหาย รถพยาบาล 7 คันและรถยนต์ราชการ 4 คันเสียหายทั้งหมด

          นายแพทย์เกียรติภูมิกล่าวต่อว่า ได้กำชับให้สถานบริการในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมทุกจังหวัด ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเตรียมพร้อมตามแผนที่วางไว้ ทั้งการประสานส่งต่อผู้ป่วยและเส้นทางในการเดินทางกรณีต้องปิดสถานบริการ การย้ายจุดบริการ รวมทั้งการจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ดูแลผู้ประสบภัย การดูแลกลุ่มเปราะบาง ทั้งผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ เด็กเล็ก และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้ป่วยจิตเวชไม่ให้ขาดยา หากต้องการสิ่งสนับสนุนสามารถติดต่อกองสาธารณสุขฉุกเฉิน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้ตลอด 24 ชั่วโมง