กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้รายงานสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศวันนี้ (4 ต.ค.64) ว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ปกคลุมประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นทั่วประเทศ แล้วช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณ จ.เชียงราย 54 มิลลิเมตร // อุบลราชธานี 54 มิลลิเมตร // ราชบุรี 91 มิลลิเมตร // นครปฐม 62 มิลลิเมตร // จันทบุรี 61 มิลลิเมตร และพัทลุง 98 มิลลิเมตร โดยแม่น้ำสายหลักทั่วประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ยกเว้นภาคเหนือมีแนวโน้มลดลง ภาพรวมปริมาณน้ำทั้งประเทศ 55,048 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 67 และแหล่งน้ำขนาดใหญ่ 48,635 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 68 ส่วนจุดเฝ้าระวังน้ำน้อยยังคงอยู่ในพื้นที่ 5 แห่ง เฝ้าระวังน้ำมาก 16 แห่ง บริเวณเขื่อนนฤบดินทรจินดา เขื่อนลำพระเพลิง เขื่อนแม่มอก เขื่อนลำตะคอง อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล เขื่อนจุฬาภรณ์ เขื่อนแก่งกระจาน เขื่อนลำนางรอง เขื่อนทับเสลา เขื่อนขุนด่านปราการชล อ่างเก็บน้ำบึงบอระเพ็ด เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนกระเสียว และเขื่อนมูลบน พร้อมคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก-ดินถล่มช่วง 1 - 2 วันนี้ต้องเฝ้าระวังบริเวณ จ.เชียงใหม่ น่าน พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ อุบลราชธานี และจันทบุรี ส่วนสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำมีแนวโน้มสูงขึ้นและเสี่ยงน้ำล้นตลิ่งบริเวณ แม่น้ำน่าน อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร // แม่น้ำปาสัก อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ // แม่น้ำชี อ.เมือง อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น อ.เมือง อ. มหาชนะชัย จ.ยโสธร // แม่น้ำมูล อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี // แม่น้ำเจ้าพระยา อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี อ.เมือง จ.อ่างทอง และแม่น้ำท่าจีน อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ยังได้ติดตามสถานการณ์น้ำหลากบริเวณลุ่มน้ำชีตอนบนและน้ำท่วมขังในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งระดับน้ำที่เขื่อนชนบท จ.ขอนแก่น สูงกว่าตลิ่งช่วงพื้นที่ลุ่มต่ำประมาณ 3.50 เมตร และล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำชีในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ประกอบกับ ระดับน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น สูงเกินเกณฑ์ระดับน้ำควบคุมสูงสุด จำเป็นต้องระบายน้ำลงลำน้ำพอง ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำชีเพิ่มสูงขึ้นและล้นตลิ่งใน 6 จังหวัด คือ ขอนแก่น // มหาสารคาม // กาฬสินธุ์ // ร้อยเอ็ด // ยโสธร และศรีสะเกษ โดย กอนช. ได้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่จุดเสี่ยงบริเวณที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ พร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมน้ำทราบล่วงหน้า เพื่อเตรียมพร้อมอพยพและเคลื่อนย้ายสิ่งของได้ทันทีหากเกิดเหตุฉุกเฉิน รวมทั้ง ปรับแผนบริหารจัดการเขื่อนระบายน้ำและประตูระบายน้ำ ด้วยการพร่องน้ำและบริหารพื้นที่ลุ่มต่ำให้เป็นแก้มลิงหน่วงน้ำ จัดจราจรน้ำในการสับหลีกการระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำและเร่งระบายน้ำในแม่น้ำรองรับน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบน เพื่อลดผลกระทบจากอุทกภัยและให้สถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว