กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้รายงานสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศวันนี้ (8 ต.ค.64) ว่า ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคใต้ และมีฝนตกหนักมากบางแห่งในภาคใต้ฝั่งตะวันตก แล้วช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณ จ.น่าน 86 มิลลิเมตร // อุบลราชธานี 25 มิลลิเมตร // กรุงเทพมหานคร 39 มิลลิเมตร // ประจวบคีรีขันธ์ 45 มิลลิเมตร // สมุทรปราการ 18 มิลลิเมตร และระนอง 120 มิลลิเมตร โดยแม่น้ำสายหลักทั่วประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ยกเว้นภาคเหนือมีแนวโน้มลดลง ภาพรวมปริมาณน้ำทั้งประเทศ 56.172 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 68 และแหล่งน้ำขนาดใหญ่ 49,442 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 69 ส่วนจุดเฝ้าระวังน้ำน้อยยังคงอยู่ในพื้นที่ 5 แห่ง เฝ้าระวังน้ำมาก 16 แห่ง บริเวณเขื่อนนฤบดินทรจินดา เขื่อนลำพระเพลิง เขื่อนแม่มอก เขื่อนลำตะคอง อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล เขื่อนจุฬาภรณ์ เขื่อนแก่งกระจาน เขื่อนลำนางรอง เขื่อนทับเสลา เขื่อนขุนด่านปราการชล อ่างเก็บน้ำบึงบอระเพ็ด เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนกระเสียว และเขื่อนมูลบน พร้อมคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก-ดินถล่มช่วง 1 - 2 วันนี้ต้องเฝ้าระวังบริเวณ จ.กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด สระแก้ว ชุมพรนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล ส่วนสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำมีแนวโน้มสูงขึ้นและเสี่ยงน้ำล้นตลิ่งบริเวณแม่น้ำน่าน อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร // แม่น้ำป่าสัก อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ // แม่น้ำชี อ.เมือง อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น , อ.เมือง อ. มหาชนะชัย จ.ยโสธร // แม่น้ำมูล อ.ชุมพลบุรี อ.ท่าดูม อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ , อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ , อ.โพนทราย อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด , อ.เมือง อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ อ.บึงบูรพ์ อ.ยางชุมน้อย อ.ราศิไศล อ.ศิลาลาด อ.อุทุมพรพิสัย และ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ // แม่น้ำเจ้าพระยา อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ , อ.เมือง จ.สิงห์บุรี , อ.เมือง จ.อ่างทอง , จ.พระนครศรีอยูธยา และแม่น้ำท่าจีน อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม            

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ยังได้เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินถล่ม และน้ำท่วมฉับพลัน ในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งตะวันตกถึงวันที่ 10 ตุลาคมนี้ ประกอบด้วย เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินถล่ม และน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ราชบุรี จันทบุรี ตราด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล // เฝ้าระวังระดับน้ำล้นตลิ่ง บริเวณที่ลุ่มต่ำริมลำน้ำ บริเวณแม่น้ำเพชรบุรี จ.เพชรบุรี ลำตะเพิน จ.กาญจนบุรี และแม่น้ำตาปี จ.สุราษฎร์ธานี // เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 ของความจุ เสี่ยงน้ำล้นทางระบายน้ำล้น อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่บริเวณท้ายน้ำ คือ อ่างเก็บน้ำลำตะเพิน อ่างเก็บน้ำพุตะเคียน จ.กาญจนบุรี, อ่างเก็บน้ำห้วยมะหาด จ.ราชบุรี , อ่างเก็บน้ำห้วยไทรงาม จ.ประจวบคีรีขันธ์ , อ่างเก็บน้ำคลองหยา และอ่างเก็บน้ำคลองแห้ง จ.กระบี่                

 กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้ติดตามสภาพอากาศหลังกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์พบมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังค่อนข้างแรงถึงวันที่ 11 ตุลาคม และพายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง คาดจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนช่วงวันที่ 10 - 11 ตุลาคม ส่งผลให้แม่น้ำมูลมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 50 เซนติเมตร – 1 เมตร โดยคาดการณ์ปริมาณน้ำสูงสุดจะไหลผ่านจังหวัดอุบลราชธานีช่วงวันที่ 16 - 20 ตุลาคม มีพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่งบริเวณริมแม่น้ำมูลในเขต อ.เขื่องใน อ.เมือง อ.ดอนมดแดง อ.ม่วงสามสิบ อ.วารินชำราบ และ อ.สว่างวีระวงศ์ จึงให้กรมชลประทานได้ตั้งศูนย์บริหารจัดการอุทกภัยลุ่มน้ำชี-มูล (ส่วนหน้า) เป็นศูนย์บัญชาการ เตรียมรับมือน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำมูลและให้ความช่วยเหลือบรรเทาอุทกภัยลุ่มน้ำชี-มูลให้มีประสิทธิภาพ