ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
คุณภาพชีวิต ย้อนกลับ
อนุทินรับมอบ 200 ตู้เก็บวัคซีนจากสหรัฐฯ
13 ต.ค. 2564

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร รับมอบตู้เย็นเก็บวัคซีนจำนวน 200 ตู้ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานกระจายวัคซีนโควิด 19 ในประเทศไทย จากกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา โดยมีพลเรือเอก จอห์น ซี อะกิลีโน ผู้บัญชาการกองกำลังสหรัฐอเมริกา ภาคพื้นอินโด-แปซิฟิก และคณะ เป็นผู้แทนส่งมอบ พร้อมด้วย นายไมเคิล ฮีธ อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ร่วมเป็นสักขีพยาน

          นายอนุทินกล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลมีการผ่อนคลายกิจกรรม กิจการต่างๆ มากขึ้น และเตรียมพร้อมที่จะเปิดประเทศอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน 2564 นี้ ขณะเดียวกันกระทรวงสาธารณสุขได้เร่งฉีดวัคซีนให้กับทุกคนในประเทศไทยตามความสมัครใจ ตั้งเป้าให้ได้ครอบคลุมร้อยละ 70 ของประชากร โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 608 เพื่อให้เกิดความปลอดภัย และเยาวชนที่มีอายุระหว่าง 12-17 ปี เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียน รวมถึงสร้างความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจในการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว และเป็นที่น่ายินดีที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกาได้สนับสนุนตู้เย็นเก็บวัคซีนซึ่งเป็นอุปกรณ์จำเป็นที่จะช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุข ในการกระจายวัคซีนไปยังส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ โดยก่อนหน้านี้ยังได้สนับสนุนวัคซีนไฟเซอร์ให้แก่ประเทศไทยจำนวน 1.5 ล้านโดส เพื่อนำไปฉีดในบุคลากรด่านหน้า และประชาชนกลุ่มเสี่ยง รวมถึงให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาโควิด 19 ด้วยดีตลอดมา

        สำหรับตู้เย็นเก็บวัคซีนที่ได้รับมอบในวันนี้ จะช่วยเก็บวัคซีนตามอุณหภูมิมาตรฐาน 2-8 องศาเซลเซียส เพื่อรักษาคุณภาพของวัคซีน มีสัญญาณเตือนอัตโนมัติเมื่อการทำงานของเครื่องผิดปกติ รวมถึงสามารถเก็บรักษายา เวชภัณฑ์ และวัคซีนชนิดอื่น ๆ ให้อยู่ในสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสม โดยได้จัดส่งไปยัง 12 เขตสุขภาพและกทม. รวมทั้งหน่วยบริการสังกัดกรมควบคุมโรค รวมทั้งสิ้น 114 แห่ง เพื่อให้การจัดบริการฉีดวัคซีนเป็นไปอย่างคล่องตัว มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน

 

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...