พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ครั้งที่ 17/2564
รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อโควิด-19 สธ.เสนอแผนการให้บริการวัคซีนโควิด-19 เสนอการปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักรโดยปรับ พื้นที่ควบคุมและเข้มงวดสูงสุด (สีแดงเข้ม) 23 จังหวัด เหลือ 7 ได้แก่ จันทบุรี ตาก นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา
พื้นที่ควบคุมสูงสุด 30 จังหวัด เป็น 38 จังหวัด และ พื้นที่ควบคุม 24 จังหวัด เป็น 23 จังหวัด พื้นที่เฝ้าระวังสูง 5 จังหวัด ได้แก่ นครพนม น่าน บึงกาฬ มุกดาหาร สกลนคร พื้นที่เฝ้าระวัง ไม่มีขณะที่ พื้นที่สีฟ้า (นำร่องการท่องเที่ยว) 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กระบี่ พังงา ภูเก็ต จะเปิดให้มีการขายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารได้ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.เป็นต้นไป
ต่อมา เวลา 13.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิปบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์หลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ว่า ศบค.ชุดใหญ่เห็นชอบให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่สีฟ้า (นำร่องการท่องเที่ยว) 4 จังหวัดได้แก่ กรุงเทพมหานคร กระบี่ พังงา และ ภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนเป็นต้นไป
นพ.โอภาสกล่าวว่า ส่วนรายละเอียด พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะเป็นผู้ไปออกข้อกำหนด โดยเบื้องต้นจะมีการกำหนดโซนพื้นที่ในการจำหน่ายและดื่มแอลกอฮอล์ แต่ไม่ได้เปิดเสรีเป็นการทั่วไปในทุกพื้นที่