มหานิยมห่วงวิกฤตศรัทธา “คนกาสิน” ต้านพระเล็กทำอีสานเดือด ย้ำกระแสต้านมติของจริง ขอสันติบาล หยุดเดินเพราะเป็นเรื่องของ มส.-พศ. ที่แก้ปัญหาไม่ตรงจุด

       กระแสการต่อต้าน พระครูสุทธิญาณโสภณ (เล็ก สุทธิญาโณ) เจ้าคณะอำเภอสังคม จ.หนองคาย ที่มีคดีอธิกรณ์ แต่ได้มติ มส.แต่งตั้งให้ เป็นเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธ) แทนเจ้าคุณบัวศรีและได้รับตราตั้งไปแล้วเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2564  ทั้งที่ประชาชนต่อต้านและมติสังฆาธิการจังหวัดกาฬสินธุ์ มีมติประวัติศาสตร์ไม่ยอมรับมติ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

       วันที่ 31 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระแสข่าวการลงพื้นที่ของ ตำรวจสันติบาล กลายเป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุยกันอย่างกว้างขวาง เนื่องจากกรณีดังกล่าวประชาชนเห็นว่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจาก มหาเถรสมาคมและสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่มีสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้กำกับดูแล ควรที่จะเข้ามาแก้ไขเอง ต่อกระแสข่าวที่ออกและการเดินหาข่าวของ ตำรวจสันติบาล ยังสร้างความหวาดกลัวให้กับชาวพุทธรวมไปถึงเจ้าอาวาสวัดหลายแห่ง เพราะดูเหมือนว่าจะกลายเป็นเรื่องบานปลายใหญ่โต เพราะเป็นการอ้างคำสั่งว่าเป็นผู้ที่สูงกว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติที่สั่งการมาเพื่อต้องการหาทางลงหรือจบปัญหา แต่ก็ไม่รู้ว่าจะจบปัญหาด้วยวิธีใดจึงมีการวิจารณ์ว่าหากจะจบปัญหาด้วยการจับประชาชนที่ไม่เห็นด้วย หรือ ข่มขู่ เพื่อให้ พระเล็กเข้ามาบริหารคณะสงฆ์แล้วนั้น ปัญหานี้คงจะบานปลายรุนแรงขึ้นแน่นอน ขณะนี้จึงไม่ทำให้ประชาชนหวั่นเกรงและยังมีการขึ้นป้าย ไม่ต้อนรับ พระเล็ก เพิ่มมากขึ้น และมีการลงรายชื่อคัดค้านกันในระบบออนไลน์อย่างต่อเนื่อง

      ดร.มหานิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร เขต 2 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในฐานะที่เป็น ส.ส.ที่ลุกขึ้นมาปกป้องพระพุทธศาสนาในสภาผู้แทนราษฎร ติดต่อกัน 2 ปีกว่า กรณีที่มีการถอดถอนและแต่งตั้งเจ้าคณะจังหวัด 3 จังหวัด ยืนยันว่าเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎมหากเถรสมาคมและพรบ.คณะสงฆ์ฯอย่างชัดเจนแต่แรกแล้ว กรรมการมหาเถรสมาคมบางรูปท่านก็ออกมาตอบท่านไม่ทราบ เป็นการกระทำของบุคคลภายนอกยัดไส้เข้ามา กรณีนี้ตนขอร้องว่า มส.-พศ. อย่าตะแบงเลย เมื่อรู้ว่าผิดขั้นตอนทำไมไม่แก้ ปัญหาให้ถูกต้องตามขั้นตอน ความรับผิดชอบจึงขึ้นอยู่กับ มส. ที่ต้องนำกลับมาทบทวนใหม่โดย มี พศ . ในฐานะเลขาธิการ แต่กลับไม่ทำ เพราะปัญหาที่ยืดเยื้อก็คือ มส.ได้กระทำการที่ตรงกันข้ามต่อข้อเท็จจริง กฏมหาเถร และ พรบ.สงฆ์ฯ มีการเดินหน้าหรือจะเกิดขึ้นเพราะมีบุคคลภายนอกที่เข้ามาสั่งการที่บุคคลนั้น ไม่รู้เรื่องระเบียบวินัยสงฆ์ ไม่รู้ธรรมเนียมปฏิบัติของพระสงฆ์ เอาความชอบใจของฆราวาสคนนั้นมาสั่งการ

     “การที่พุทธศาสนิกชนชาวกาฬสินธ์ ออกมาต่อต้าน มส.และพศ. ที่มีมติถอดถอนเจ้าคุณบัวสี ออกจากเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ และแต่งตั้ง พระเล็ก มาเป็นเจ้าคณะจังหวัดแทนนั้น จึงเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่ชาวพุทธต่อต้านแบบเอาเป็นเอาตายขึ้นป้ายต่อต้าน เต็มจังหวัดและพระสังฆาธิการ เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบลฝ่ายธรรมยุต ลาออกยกจังหวัดเท่ากับคำสั่งนี้ได้ทำลายคณะสงฆ์ เท่ากับ สังฆเภท และจนป่านนี้ผู้บริหารคณะสงฆ์ ยังคิดไม่ออกปล่อยคณะสงฆ์เสียหาย ที่สำคัญไปผูกโยงมีการเอาตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้อง และทราบว่ามีตำรวจสันติบาล เข้าสืบสวน จึงเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องเพราะมีคำถามว่า ตำรวจเอาเข้ามาทำไมเพราะเป็นเรื่องของสงฆ์จะต้องบริหารกันเอง เหตุเกิดที่ มส.พศ. ก็ต้องแก้ตรงนั้น ตำรวจมาวุ่นวายทำไม กฎหมายคอมมิวนิสต์ ไม่มีแล้ว หยุดเถอะครับ อย่าให้พระพุทธศาสนาเสีย หายมากกว่านี้เลย และขอให้นายกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หยุดเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ เข้ามาแก้ปัญหานี้ในฐานะกำกับบังคับบัญชาสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ อย่าใช้ตำรวจมาบังคับขู่เข็ญพระภิกษุ สามเณรอีกต่อไป”

     ส.ส.ดร.มหานิยม เวชกามา กล่าวอีกว่า กรณีผู้มีอำนาจภายนอกวงการสงฆ์ โทรศัพท์มาเคลียร์กับท่านเจ้าคุณแผนหรือพระญาณรักขิต รองเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธ์(6) ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของเจ้าคุณบัวสี จะให้รักษาการ แทนไปก่อน คิดหรือว่าจะทำได้ตามที่ต้องการ มันเป็นเรื่องยากมาก เพราะวันนี้ มส.ได้ตั้งพระที่มีอาวุโสน้อยมานั่งบนหัวพระที่มีอาวุโสมาก สำหรับพระสายธรรมยุติท่านถือปฏิบัติที่เร่งครัดมากขอให้เลิกคิดเลย นั้นคือการ แก้ปัญหาแบบลิงแก้แห ยิ่งแก้ยิ่งยุ่ง เพราะ แก้ไม่ตรงจุด ที่ตรงจุด คือให้พระเล็ก ลาออก ทุกอย่างยุติ ลดทิฏฐิเถอะครับ ลาออกเถอะ ถึงยังไรหากพระเล็กเดินทางมากาฬสินธุ์วันนั้นคงทำให้แผ่นดินอีสานร้อนเป็นไฟแน่

ทีมข่าวกาฬสินธุ์