นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา พบว่านักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามา เดิมจำนวน 2,000 คนต่อวัน ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 3,000-4,000 คนต่อวัน ทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1-15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา อยู่ที่ 43,027 คน เนื่องจากเปิดประเทศเพียง 15 วันเท่านั้น แต่ตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวสะสม คิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ที่เปิดตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับค่อนข้างดี โดยเฉพาะมาตรการเทส แอนด์ โก ที่สามารถสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ และเราเห็นกระแสการเดินทางกลับมา สะท้อนได้จากหลายสายการบิน ที่กลับมาทำการบินอีกครั้ง และเพิ่มเที่ยวบินมากขึ้น อาทิ สายการบินเอมิเรตส์ ประกาศใช้เครื่องบิน A380 ที่เป็นเครื่องบินขนาดใหญ่ สามารถจุผู้โดยสารได้กว่า 500 คน แสดงว่าน่าจะมีความต้องการ (ดีมานด์) มากพอสมควร รวมมีสายการบินที่ติดต่อเข้ามาต้องการทำการบินเข้าสนามบินกระบี่ และสมุย เพิ่มเติม ทำให้แนวโน้มฟื้นตัวได้ค่อนข้างดี โดยตั้งเป้าหมายดึงจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติคืน 10% หรือประมาณ 300,000 คนต่อเดือน เทียบจากช่วงปีปกติก่อนเกิดการระบาดโควิด-19 หรือในปี 2562 ที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 3 ล้านคนต่อเดือน

“การไหลเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่ได้หมายความว่าจะไหลเข้ามาในเดือนพฤศจิกายนนี้ ทันทีที่ 300,000 คน โดยท่าอากาศยานไทย คาดการณ์ว่าทั้งเดือนพฤศจิกายนนี้ จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาอยู่ที่ 100,000 คน ส่วนเดือนธันวาคมนี้ คาดว่าจะได้มากขึ้นอีก จึงตั้งเป้าหมายเฉลี่ยไว้ที่การฟื้นตัว 10% หรือมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเฉลี่ย 300,000 คนต่อเดือน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน จนถึงไตรมาส 1/2565 (มกราคม-มีนาคม) ส่วนตลาดในประเทศ เห็นสายการบินในประเทศเริ่มกลับมาทำการบินเพิ่มขึ้น จึงคาดว่าจะเห็นการเดินทางกลับมาฟื้นได้ ประกอบกับปีนี้อากาศหนาวมาเร็ว ทำให้มองว่าแนวโน้มการท่องเที่ยวไทยจะดีขึ้น ในช่วงปลายปีนี้จนถึงต้นปี 2565 ทั้งในประเทศและต่างประเทศ” นายยุทธศักดิ์ กล่าว

นายยุทธศักดิ์กล่าวว่า ในปี 2565 ตั้งเป้าหมายรายได้ของภาคการท่องเที่ยวไทย ประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 50% ของปี 2562 และปี 2566 เพิ่มเป็น 2.4 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 80% ของปี 2562 ส่วนปี 2567 คาดว่าจะมีรายได้กลับไปเท่ากับรายได้ของปี 2562 ซึ่งเป็นปีก่อนวิกฤตโควิด อยู่ที่ประมาณ 3 ล้านล้านบาท ภายใต้เงื่อนไขจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ลดลงอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง เนื่องจากเราต้องการกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพมากขึ้น โดยได้จัดทำภาพจำลองสถานการณ์การท่องเที่ยวไว้ 3 ระดับ ได้แก่ 1.สถานการณ์การท่องเที่ยวฟื้นตัวได้ดี คาดว่าจะมีรายได้รวมทั้งตลาดต่างชาติและตลาดคนไทย อยู่ที่ 1.90 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาจำนวน 18 ล้านคน สร้างรายได้ 1.05 ล้านบาทบาท ตลาดไทยเที่ยวไทยเดินทางจำนวน 160 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 8.5 แสนล้านบาท 2.สถานการณ์ท่องเที่ยวฟื้นตัวในเงื่อนไขปัจจุบัน มีรายได้รวมอยู่ที่ 1.60 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา 13 ล้านคน สร้างรายได้ 8.2 แสนล้านบาท เที่ยวในประเทศ 140 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 7.8 แสนล้านบาท และ 3.สถานการณ์ท่องเที่ยวฟื้นตัวล่าช้า รายได้รวมอยู่ที่ 1.30 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา 10 ล้านคน สร้างรายได้ 6.2 แสนล้านบาท เที่ยวในประเทศ 122 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 6.3 แสนล้านบาท โดยในปี 2562 ถือว่าเป็นปีที่ภาคท่องเที่ยวไทย สามารถทำได้ดีทั้งในแง่รายได้และจำนวนนักท่องเที่ยว ซึ่งมีรายได้รวมของการท่องเที่ยว ประมาณ 3 ล้านล้านบาท และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ประมาณ 40 ล้านคน