น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดข้อถกเถียงในสภาอันเนื่องมาจากการนำเสนอวาระที่ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนเข้าสู่วาระปกติ ทั้งที่วาระปกตินั้นเป็นไปเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน จนทำให้ฝ่ายค้านต้องเสนอนับองค์ประชุมแบบขานรายชื่อ เพื่อต้องการให้รัฐบาลหันมาตั้งใจทำงานแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนมากกว่านี้ ไม่ใช่การเพิกเฉยละเลยต่อกระบวนการทางนิติบัญญัติที่ทุกฝ่ายเสนอ แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลมั่นใจในเสถียรภาพของตัวเอง ทั้งที่จัดตั้งรัฐบาลได้ด้วยเสาค้ำยันอำนาจที่เรียกว่า ส.ว. 250 คน กลายเป็นรัฐบาล 500 เสียง หากรัฐบาลมีเสียงที่เข้มแข็งในสภาจริง ย่อมมีที่นั่ง ส.ส. มากกว่านี้ ต้องไม่นิ่งนอนใจที่จะแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนผ่านสภาแบบนี้
น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า ในส่วนของการทำงานผ่านกระบวนการสภา พรรคเพื่อไทยยืนหยัดที่จะใช้สภาเป็นห้องสะท้อนปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนต่อไป ในขณะเดียวกันจะลงพื้นที่รับฟังปัญหาและข้อเสนอจากพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ เพื่อระดมความคิดเห็นก่อนจะนำไปสู่การพัฒนาแนวทางที่ดีกว่า เพื่อให้บ้านเมืองดีขึ้น ที่ผ่านมาการบริหารที่ล้มเหลวไร้ความสามารถของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ได้สร้างความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสให้กับพี่น้องประชาชนมาตลอด 7 ปี ดังนั้นในวันที่ 6 ธ.ค.64 กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย นำโดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค จะลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นจังหวัดแรก เพื่อรับฟังปัญหาพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าว หลังจากได้รับการร้องเรียนจากชาวนาที่ได้เข้ามาสะท้อนปัญหาจากโครงการรับประกันราคาข้าวที่พรรคเพื่อไทยในช่วงก่อนหน้านี้ รวมทั้งร่วมกันหาทางออกใหม่ๆ ในการยกระดับชีวิตพี่น้องเกษตรกรไทย โดยหลังจากนี้พรรคเพื่อไทยจะมีกิจกรรมที่เป็นการเชื่อมต่อ ส.ส. กรรมการบริหารพรรค สมาชิกพรรค ร่วมกับประชาชน ในการร่วมกันแก้ปัญหา มองหาสิ่งใหม่ เพื่อโอกาสของคนไทยที่จะกลับมามีชีวิตที่ดีกว่านี้ มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่าวันนี้
"พรรคเพื่อไทยเราทำหน้าที่ในสภาอย่างเต็มที่เพื่อสร้างความเข้มแข็งตามกระบวนการนิติบัญญัติ แต่หากเสียงของพี่น้องประชาชนส่งไปไม่ถึงรัฐบาล พูดไปแล้วเขาไม่ฟัง ไม่สนใจ ไม่เข้าใจ เราจะไปหา หัวใจของเรา ประชาชนคือศูนย์กลาง คือหลักคิดที่เรายึดมั่นมาโดยตลอดไม่เปลี่ยนแปลง"น.ส.ธีรรัตน์ กล่าว