"ประกันสังคม" จัดให้โค้งสุดท้ายขยายวงเงินโครงการสินเชื่อให้กับสถานประกอบการที่มีลูกจ้างเกิน 200 คนขึ้นไป เพิ่มอีกถึง 30 ล้าน จากเดิม 15 ล้านบาทเป็น 45 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมการจ้างงาน
นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่ารัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม และกระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี โดยนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ได้มีมาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจจากโรคโควิด-19 ให้สามารถรักษาการจ้างงานให้ผู้ประกันตนมีงานทำต่อเนื่องและอยู่ในระบบประกันสังคม กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม ได้เล็งถึงความจำเป็นของสถานประกอบการขนาดใหญ่ให้เข้าถึงสินเชื่อในจำนวนเงินที่เพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับขนาดของธุรกิจและจำนวนลูกจ้างของสถานประกอบการ ได้ดำเนินโครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงานระยะที่ 2 (พ.ศ.2563 – 2564) โดยร่วมกับธนาคารที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 5 แห่ง ได้แก่ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) อย่างไรก็ดี ขณะนี้ กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคมได้ขยายวงเงินสินเชื่อสำหรับสถานประกอบการที่มีลูกจ้างเกิน 200 คน ให้สามารถขอสินเชื่อได้ถึง 30 ล้านบาท จากเดิมที่กำหนดไว้ไม่เกิน 15 ล้านบาท (เฉพาะธนาคารที่เข้าร่วมโครงการขยายวงเงินสินเชื่อให้กับสถานประกอบการ 3 แห่ง คือ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด มหาชน)
ทั้งนี้ เงื่อนไขในการขอสินเชื่อและอัตราดอกเบี้ยยังคงไว้เดิม สำหรับการขอสินเชื่อที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน อัตราดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกินร้อยละ 2.75 ต่อปี คงที่ 3 ปี และกรณีไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันหรือใช้บุคคลค้ำประกัน อัตราดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกินร้อยละ 4.75 ต่อปี คงที่ 3 ปี สำหรับข้อกำหนดของสถานประกอบการที่จะเข้าร่วมโครงการนั้น จะต้องเป็นสถานประกอบการที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคม และจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน รวมถึงจะต้องรักษาจำนวนผู้ประกันตนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของจำนวนผู้ประกันตน ณ วันที่ได้รับสินเชื่อตลอดอายุโครงการ 3 ปี ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบให้มีการเลิกจ้างลูกจ้างในสถานประกอบการ
โดยผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโครงการสินเชื่อกับธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ ปัจจุบันมีจำนวน 5 แห่งได้แก่ ได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 โดยสามารถติดต่อสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-12 และสำนักงานประกันสังคมจังหวัด/สาขา เพื่อขอหนังสือรับรองสถานะความเป็นสถานประกอบการนำไปติดต่อยื่นขอสินเชื่อกับธนาคาร หรือพิมพ์หนังสือรับรองสถานะความเป็นสถานประกอบการในระบบ e-service ผ่านเว็บไซต์ www.sso.go.th/eservices/esv/index.jsp และเลือกหัวข้อ “ขอหนังสือรับรอง (โครงการสินเชื่อฯ)” หรือสแกน QR code