ไม่สนว่าเศรษฐกิจจะตกต่ำแค่ไหน สาวใหญ่ไมขออยู่เฉย หันมาเลี้ยงนกพิราบอินเดียส่งขายทั้งตลาดเมืองไทยและต่างประเทศ สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำเดือนละหลายกมื่นบาท

              จากสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่หลายคนเกิดอาการท้อแท้หมดแรงสู้ แต่กับคุณ กชกร  จัตุรัส เป็นผู้หญิงแกร่งที่ไม่ยอมแพ้ คิดว่าขืนอยู่นิ่งๆไม่ทำอะไรชีวิตอาจแย่กว่านี้ จึงหาอาขีพที่คิดว่าลงทุนน้อยพอด้กำไรมาเลี้ยงตัว ที่เลือกแบบลงทุนน้อยก้เผื่อว่าถ้าไปไม่ไหวก็จะไม่เจ็บตัวมาก จนมาบลงเอยที่ เลี้ยงนกพิราบอินเดีย เพราะในช่วงที่เรนิ่มเลี้ยงยังไม่ค่อยมีใครเลี้ยงอย่างจริงจัง จึงไม่น่าจะมีคู่แข่ง หลังตัดสินใจนำเงินทีร่เก็บไว้มาสั่ง พ่อพันธ์แม่พันธ์ ที่สายลือดีมาเลี้ยงในราคาที่มีตั้งแต่ ตัวละ 3500 ถึง 6000 บาทเมื่อลุกนกโตเต็มวัยก็ผสมพันธุ์ แต่ช่วงแรกจะไม่ขายเก็บเอาไว้เป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์จนได้พ่อ และแม่มากพอถึงเริ่มเพราะลุกขาย โดยจะเริ่มที่ราคา 100 บาท ถึง 3000 บาท สำหรับลูกนก ถ้าสีสวยนิยมราคาก็อาจถึงสามัน แต่สำหรับคนไทยแล้วมักนิยมสีขาวมากที่สุด จึงเป็นสีที่ขายดี แต่สำหรับผู้ที่เลี้ยง

ไว้ทำพันธุ์ จะเลือกตัวที่มีสีสันแปลกตา โดยเฉพาะขาวปลอดหลังำเหมือสวมใส่เสื้อกั๊ก ไม่ว่าจะเป็นสีดำหรือสีน้ำตาลซึ่งเป็นสีที่วงการยนิมยมมากเพราะแต่ละรุ่นในหลายๆแม่อาจมแค่ หนึ่งหรือสองตัว

            สำหรับนกพิราบอินเดียนั้น จะออกไข่ 2 เดือนครั้ง โดยที่แต่ละครั้งจะมีไข่ไม่เกิน 2 ฟอง และเป็นนกที่เลี้ยงง่ายโตเร็ว มีนิสัยเชื่อง กินอาหารเม็ดผสมข้าวเปลือก แต่ควรมีน้ำให้นกเล่นเพราะพิราบอินเดียนั้นชอบอาบน้ำผึ่งแดดเป็นนกดที่รักความสะอาด  คุณกชกร ยังบอกด้วยว่า ไม่ต้องกลัวนกบินหนีเพราะนกพิราบอินเดียนั้นบินไม่เก่งและมักอยุใกล้คน จึงเป็นที่มาที่คนชอบเลี้ยงเพระนกจะคลอเคลียอยู่ใกล้ๆ ส่วนลักษณะเด่นขอิงนกพิราบอินเดียกับนกพิราบไทยนั้นสังเกตุที่หัวจะมีหงอนทั้งตัวผู้และตัวเมีย มีขนเท้าที่ยาวปิดคลุมเท้าทั้งหมด หางจะลำแพนเหมือนหางนกยูงซึ่งจะแพนตลอดเวงบลา ทำให้นกพิราบอินเดียนั้นสวยงามน่าเลี้ยงกว่านำพิราบทั่วไป ขนาดใหญ่กว่าน้ำหนักต่อตัวประมาณ 1.5 กก.

         คุณกชกร  จัตุรัส เล่าว่า ช่วงเลี้ยงใหม่เวลามีคนมาขอซื้อลบางครั้งเสียดายพราะเลี้ยงแล้วก็รัก แต่ก็ทำใจเพรัคิดว่าคนที่มาซื้อก็รักเหมือนเรา จนทำให้ทุกวันนี้เลี้ยงนกพิราบอินเดียเป็นอาชีพ ขายทั่วไป มีการจัดส่งทั่วประเทศ มีบ้างที่มาซื้อเอไปขายต่อ หรือซื้อเพื่อไปทำพันธุ์ จนมีลูกนกที่เลี้ยงไว้กระจายไปแทบทั่วประเทศ  ไม่เฉพาะในต่างจังหวัด แม้แต่ต่างประเทศ ทั้ง ลาว กัมพูชา ก็เป็นลุกค้า เหลืออีกที่คือ เวียตนาม ยังตัดสินใจว่าจะส่งหรือไม่เพราะกลัวว่า ลูกนกจะตายก่อนถึงมือคนสั่ง แต่ถ้าระบบการขนส่งพร้อมก็พร้อมที่จะส่งไปให้โดยคิดราคาเท่ากับในเมืองไทยบวกแค่ค่าขนส่งจริงเท่านั้น

           สุดท้ายคุณกชกร ยังฝากถึงคนที่อยากเลี้ยงจะเลี้ยงเป็นอาชีพหรือเป็นเพื่อสวยงามสามารถโทรศัพท์สอบถามที่หมายเลข  064- 660 8420 ยินดีให้คำแนะนำ

ทีมข่าวปราจีนบุรี