นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์ เจ้าของฉายา”มิสเตอร์เอทานอล”เขียนข้อความในเฟสบุ้ควันนี้ เรื่อง “ฝันของ ดร.เอ้กับ โอลิมปิค2036 No Dream No Possibility “ ซึ่งเป็นการให้ข้อคิดต่อข้อเสนอเชิงนโยบายของ ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ (เอ้) สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่ากรุงเทพมหานคร

                 โดยนายอลงกรณ์นำเสนอมุมมองต่อเรื่องนี้ว่า  “…..หลังจาก ดร.เอ้ สุชัชวีร์ ผู้สมัครผู้ว่ากทม. พรรคประชาธิปัตย์ประกาศนโยบายเสนอกรุงเทพเป็นเจ้าภาพจัดโอลิมปิค2036  ก็มีการวิจารณ์ฮือฮาในโลกโซเชียลมีเดียทั้งเชิงบวกเชิงลบ รวมทั้ง Blochditก็ยังให้ความสำคัญกับกรณีนี้ ส่วนหนึ่งคิดว่าเป็นฝันลมๆแล้งๆ แต่ไม่น้อยมั่นใจว่าเป็นฝันที่เป็นจริงผมจึงนำประสบการณ์ส่วนต้วมาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับความฝันผมก็เคยฝันจะให้ประเทศไทยผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงเอทานแลจากพืชเพื่อลดการนำเข้าเมื่อปี2543หรือ20ปีที่แล้ว ตอนนั้นคนส่วนใหญ่ไม่เชื่อและไม่ยอมรับรวมทั้งอุตสาหกรรมน้ำมันและอุตสาหกรรมรถยนต์ แม้แต่เจ้าของรถก็เกรงว่าเอทานอลจะทำให้เครื่องยนต์เสียหาย เราฝันและลงมือทำงานเพียง10เดือนก็สามารถเสนอผ่านมติคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลประชาธิปัตย์สมัยท่านชวน หลีกภัยเป็นนายกรัฐมนตรี

               วันนี้เรามีน้ำมันแก๊สโซฮอลล์(เอทานอลคือแอลกอฮอล์ผสมน้ำมันเบนซินที่คนอื่นๆเรียกแก๊สโซลีนรวมคำเป็นแก๊สโซฮอลล์)แบบอี10 อี20 อี85ในทุกปั้มน้ำมัน รวมทั้งน้ำมันไบโอดีเซลด้วย และประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกเอทานอลท็อปเทนของโลกในปัจจุบัน

               ถ้าไม่ฝัน ความเป็นไปได้ก็เป็นศูนย์ครับ เรียกว่า No dream No possibility    คิดใหญ่ ฝันไกลคือสิ่งที่ประเทศไทยควรมีและต้องเริ่มเปลี่ยนmindsetจึงจะเดินไปสร้างฝันได้ครั ประเทศไทยอาจมีข้อด้อยมากแต่ข้อดีข้อเด่นก็ไม่น้อย ผมเชื่อในศักยภาพประเทศไทยของเราและกรุงเทพของเรา ก่อนเกิดโควิด กรุงเทพเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมามากที่สุดแซงลอนดอนแชมป์เก่าติดต่อกัน3ปี  แม้จะมีปัญหาให้เราบ่นและตำหนิได้มากมาย

                ปี2562 เราเป็นประเทศที่ส่งออกอาหารมากที่สุดเป็นอันดับ11ของโลก และเป็นอันดับ2ของเอเซียรองจากจีนแซงญี่ปุ่นเกาหลีและล่าสุดคืออินเดีย ทั้งที่ยังมีปัญหาในภาคเกษตรและอุตสาหกรรมจำนวนมาก เวลาอีกกว่า20ปีประเทศไทยของเราคงมีการเปลี่ยนแปลงพัฒนามากขึ้น ระบบขนส่งมวลชนกว่า10สายจะแล้วเสร็จภายในไม่เกิน10ปี ฯลฯ การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดโอลิมปิคเป็นฝันที่ใหญ่ ดร.เอ้ คนเดียวทำคนเดียวไม่ไหวหรอกครับ เขาจึงต้องประกาศความฝันเพื่อให้คนฝันตามและร่วมสานฝันให้เป็นจริง

                ดร.เอ้ได้แสดงภาวะความเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์คิดใหญ่คิดใหม่ มีความกล้าที่จะนำเสนอและพร้อมลงมือทำ เหมือนเมื่อ20กว่าปีที่เขาคิดเรื่องรถไฟใต้ดินท่ามกลางความไม่เชื่อของคนส่วนใหญ่เพราะกรุงเทพน้ำท่วมและอยู่บนฐานดินอ่อน วันนี้ความคิดความฝันของเขาก็เกิดขึ้น กรุงเทพมีรถไฟใต้ดินและเขามีส่วนร่วมในการศึกษาออกแบบหลังจากดั้นด้นไปเรียนวิชาวิศวกรรมอุโมงค์ที่MITตามความเชื่อความฝันของเขา ฝันหลายๆฝันในนโยบายใหม่ๆของ ดร.เอ้ได้จุดประกายความหวังให้กับคนกรุงเทพและคนไทยอีกครั้งหนึ่งเพื่อจะร่วมกันก้าวเดินไปข้างหน้า พร้อมกับความเชื่อว่า เราทำได้…”