นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ นายกสมาคมสายการบินประเทศไทย กล่าวว่า ตลอดสถานการณ์การเเพร่ระบาดของโควิด-19 สมาคมได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานด้านสาธารณสุข พร้อมนำนวัตกรรมต่างๆ มาปรับใช้ เพื่อยกระดับบริการให้มีความปลอดภัยสูงสุดอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด การแพร่ระบาดโควิดสายพันธุ์ใหม่โอมิครอน ทำให้ภาครัฐกำหนดมาตรการเฝ้าระวังที่รัดกุมขึ้น สมาคมได้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดและประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยกำชับให้ทุกสายการบิน ยังคงเข้มงวดในทุกมาตรการอย่างดีที่สุดสอดคล้องกับมาตรฐานสากลและประกาศของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย
ทั้งนี้ ผู้โดยสารทุกคนที่เดินทางกับสายการบิน จำเป็นต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดการโดยสารทางอากาศอย่างเคร่งครัด อาทิ การสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดการเดินทาง การปฏิบัติตามมาตรการเข้าออกของแต่ละจังหวัดเกี่ยวข้องกับการได้รับวัคซีนครบโดสและการแสดงผลตรวจโควิด-19 การเว้นระยะห่างทางสังคม การลดการสัมผัส การงดให้บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง ฯลฯ
รวมทั้งการที่สายการบินมีระบบกรองอากาศที่ทันสมัยมาตรฐานสูงภายในห้องโดยสาร สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กเชื้อไวรัสแบคทีเรียได้ พร้อมทำความสะอาดฆ่าเชื้อเครื่องบินเป็นประจำ ทำให้ทุกคนมั่นใจในการเดินทางได้อย่างเต็มที่
จากการประกาศของ IATA ยืนยันว่า ห้องโดยสารเครื่องบินถือเป็นสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงต่ำมากในการติดเชื้อโควิด-19 รวมถึงสายพันธุ์โอไมครอน ที่เหมือนจะแพร่เชื้อได้ง่ายกว่ารูปแบบอื่นๆ อย่างไรก็ตามสายการบินขอให้ผู้โดยสารปฏิบัติตามทุกข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อช่วยกันควบคุมการเเพร่ระบาดของโควิด-19 และสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติโดยเร็วที่สุดต่อไป
นายพุฒิพงศ์ กล่าวอีกว่า จากการหารือร่วมกับสายการบินต่างๆ พบว่าในช่วงเทศกาล ผู้โดยสารยังคงมั่นใจในการเดินทางภายในประเทศ โดยได้เรียนรู้และปรับพฤติกรรมการเดินทางให้สอดคล้องกับมาตรการต่างๆ อย่างคุ้นชิน ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีในการป้องกันการเเพร่ระบาดของโควิด-19 ในภาพรวม
สำหรับสมาคมสายการบินประเทศไทย ประกอบไปด้วยสายการบินทั้ง 7 สาย ได้แก่ บางกอกแอร์เวย์ส ไทยแอร์เอเชีย ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ นกแอร์ ไทยสมายล์ ไทยไลอ้อนแอร์ และไทยเวียตเจ็ท