กรมชลฯ เชิญชวนเกษตรกรลุ่มเจ้าพระยา ทำนาแบบเปียกสลับแห้ง ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทาน ได้รณรงค์ให้เกษตรกรเพาะปลูกพืชแบบใช้น้ำน้อย ตามโครงการสาธิตการทำนาแบบเปียกสลับแห้ง ภายใต้โครงการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าปวงประชาถวายพ่อของแผ่นดิน ตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีพื้นที่นำร่อง 4 แห่ง ได้แก่ โครงการชลประทานเชียงใหม่, โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แตง จ.เชียงใหม่, โครงการชลประทานอุบลราชธานี, โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาโดมน้อย จ.อุบลราชธานี รณรงค์การใช้น้ำอย่างประหยัดด้วยการทำนาแบบเปียกสลับแห้ง (แกล้งข้าว) หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า การทำนาแบบใช้น้ำน้อย เป็นวิธีการบริหารจัดการน้ำในการทำนา โดยไม่ส่งผลกระทบต่อผลผลิตข้าว สามารถลดปริมาณการใช้น้ำได้มากถึงร้อยละ 28 ของปริมาณน้ำที่ใช้ในการทำนาแบบทั่วไป ซึ่งโดยปกติจะใช้น้ำประมาณ 1,200 ลบ.ม.ต่อไร่ แต่ถ้าทำนาแบบแกล้งข้าว จะใช้น้ำเพียงประมาณ 860 ลบ.ม.ต่อไร่ เท่านั้น
นอกจากจะลดปริมาณการใช้น้ำลงแล้ว ยังช่วยลดต้นทุนการใช้ปุ๋ย สารเคมี และน้ำมันเชื้อเพลิง สามารถลดต้นทุนการผลิตข้าวลง จากไร่ละประมาณ 5,600 บาท เหลือประมาณ 3,400 บาท ที่สำคัญยังทำให้คุณภาพข้าวดีขึ้น เพิ่มปริมาณผลผลิตได้สูงกว่าไร่ละ 1,200 กิโลกรัม ได้อีกด้วย
ได้เน้นย้ำให้โครงการชลประทานในพื้นที่ส่งเสริมกระบวนการสร้างการรับรู้ให้เกษตรกรและทุกภาคส่วน ตระหนักถึงการใช้น้ำอย่างประหยัด พร้อมบริหารจัดการน้ำด้วยความประณีต และเป็นไปตามแผนบริหารจัดการน้ำฤดูแล้งปี 2564/65 อย่างเคร่งครัด ทั่วถึง เท่าเทียม และเป็นธรรม รวมทั้งจัดเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือ อาทิ เครื่องสูบน้ำ เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการเพื่อให้มีน้ำเพียงพอใช้ตลอดช่วงฤดูแล้งนี้