แพทย์หญิงสุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้ตอบคำถามในช่วงท้ายของการแถลงสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ประจำวัน
โดยมีข้อคำถามเกี่ยวกับความชัดเจนการเกิดภูมิคุ้มกันของโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนบนโลกโซเชียลว่า เมื่อสายพันธุ์โอไมครอนสามารถแพร่เชื้อง่าย แต่ไม่รุนแรง จะปล่อยให้มีการติดเชื้อเพื่อเกิดเป็นภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ หรือการเกิดภูมิคุ้มกันจากการฉีดวัคซีนดีกว่ากันนั้น
แพทย์หญิงสุมนี ระบุว่า อย่างไรก็ตาม การมีภูมิคุ้มกันจากวัคซีน ต้องดีกว่าการทำให้มีภูมิคุ้มกันจากการติดเชื้ออย่างแน่นอน พร้อมให้เหตุผลประกอบ 4 ข้อ ดังนี้
1. เมื่อมีการระบาดติดเชื้อเป็นวงกว้าง ซึ่งโอไมครอนสามารถแพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็ว หากเป็นเช่นนั้น ระบบสาธารณสุขในประเทศนั้น ๆ อาจจะไม่สามารถรองรับได้ทัน
2. ถึงแม้ตอนนั้นคนไทยจะได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม ถึง 64.1% แต่ว่าก็มีคนจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นจำนวนหลายล้านคน ยังไม่ได้รับวัคซีนแม้กระทั่งเข็มเดียว โดยคนกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มเสี่ยงที่เมื่่อเกิดการติดเชื้อจะทำให้มีการอาการหนักและอัตราการเสียชีวิตที่สูง
3. ขณะนี้เนื่องจากเป็นโควิดสายพันธุ์กลายพันธุ์ใหม่ จึงยังไม่รู้ว่า หลังการติดเชื้อไปแล้ว ถึงแม้ว่าเรายังไม่เสียชีวิต แต่ว่าในระยะยาวก็สามารถทราบได้ว่า จะมีภาวะ Long Covid หรือไม่ คือ มีระบบทางเดินหายใจที่ผิดปกติไปจากเดิมหรือไม่ หรือมีการระบบการไหลเวียนของเลือดที่ผิดปกติไปจากเดิมหรือไม่
4. หากมีการปล่อยให้เกิดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง เหมือนเป็นการส่งเสริมให้เชื้อโรคมีความสามารถในการกลายพันธุ์มากขึ้น และเชื้อโรคก็จะมีความซับซ้อนและก็จะทำอันตรายเราได้อีก
“ถึงมีโอไมครอนเข้ามาในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม การได้รับวัคซีนเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน ก็ยังมีความปลอดภัยกับคนไทย มากกว่าการปล่อยให้มีการติดเชื้อและเกิดภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ”