นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการเมือง กล่าวถึงการพิจารณารายงานของคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษา รวบรวมความคิดเห็นวิเคราะห์และสังเคราะห์ ประเด็นการแก้ปัญหาความขัดแย้ง และการสร้างความปรองดองทางการเมือง ว่า หลักการที่คณะกรรมาธิการฯพิจารณา จะมีความชัดเจนมากขึ้นจากข้อเสนอของคณะอนุกรรมาธิการ โดยแยกแยะหลักการความขัดแย้งที่เกิดจากการเมืองทั่วไป และเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคดีความซึ่งเรื่องนี้จะไม่ใช้หลักการนิรโทษกรรมอย่างแน่นอน พร้อมยืนยันถึงหลักคิดในการกำหนดมาตรการทางกฎหมาย ที่ยึดหลักความถูกต้องกับความผิดออกจากกัน รวมถึงควรมีมาตรการทางกฎหมายให้มีข้อเสนอเกี่ยวกับการให้โอกาส ซึ่งการพิจารณาจะขึ้นอยู่กับแต่ละกรณี ตามฐานความผิด แต่ไม่รวมไปถึงเรื่องร้ายแรง การทุจริต และการดูหมิ่นสถาบัน
นอกจากนี้ ยังมีการเสนอนแนวทางการบัญญัติกฎหมายเพื่อแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตด้วยมาตรการป้องกันหากมีสัญญาณที่จะเกิดความขัดแย้ง ที่มีการกำหนดการป้องกันไม่ให้รัฐบาลกับภาคประชาชนหรือคู่ขัดแย้ง สร้างมวลชนมาชุมนุมเผชิญหน้ากัน โดยให้มีช่องทางที่รัฐบาลต้องเป็นเจ้าภาพเพื่อทำความเข้าใจกับผู้ที่ไม่เห็นด้วย เพื่อเป็นการหาทางออกร่วมกัน โดยรัฐบาลต้องเป็นกลไกหลักและต้องไม่เป็นคู่ขัดแย้งกับประชาชน รวมถึงมีมาตรการห้ามไม่ให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของมวลชนด้วย พร้อมกับมาตรการที่มีจากกฎหมายการชุมนุมที่ประกาศใช้มาแล้วก่อนหน้านี้ แต่ที่สำคัญปัญหาการเคลื่อนไหวต่อต้านของมวลชนจะไม่เกิดขึ้น หากนักการเมืองมีคุณธรรม ไม่ทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งหลักการที่ ป.ย.ป. ดำเนินการอยู่นี้ ก็สอดคล้องกับหลักการของคณะกรรมาธิการฯ พร้อมคาดว่าข้อเสนอทั้งหมดจะสามารถส่งให้ ป.ย.ป. ภายในเดือนนี้