นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. กล่าวถึงการเลือกตั้งที่มีการประเมินอาจจะเกิดขึ้นอีก 20 เดือนข้างหน้าว่า ขณะนี้ ยังไม่สามารถคำนวณได้เพราะยังจะต้องรอให้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ โดยจะต้องนับเวลาในการจัดกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ 8 เดือน และการพิจารณาในชั้นสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. อีก 2 เดือน และอาจมีการตั้งคณะกรรมาธิการร่วมขึ้นมาพิจารณาอีก 15 วัน แต่

           ทั้งนี้ ยืนยันว่าระหว่างนี้ กรธ.สามารถพิจารณายกร่างกฎหมายลูก 8 ฉบับไปพลางก่อนได้ เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว โดยจะส่งร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และว่าด้วยกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ให้สนช. พิจารณาก่อน และพรรคการเมือง และกกต. มีความพร้อมแล้ว ก็จะส่งร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. ให้ สนช. พิจารณาต่อไป

           ส่วนกรอบเวลาการเลือกตั้งที่ต้องดำเนินการภายใน 150 วันหลังกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง 4 ฉบับมีผลบังคับใช้นั้น นายมีชัย ยืนยันว่าขึ้นอยู่กับวันลงคะแนนเลือกตั้ง ไม่รวมวันประกาศผล แต่หากเกรงว่าจะต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าต้องประกาศผลภายใน 150 วันหรือไม่ กกต. ก็สามารถเผื่อระยะเวลาในการประกาศผล เพื่อไม่ให้เลยกรอบเวลา 150วัน

           นายมีชัย กล่าวถึงการดำเนินกระบวนการถอดถอนนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่จะมีการแถลงเปิดสนวนคดีในวันที่ 9 มี.ค.นี้ ว่า หากรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ระหว่างที่สนช. ดำเนินกระบวนการถอดถอน กระบวนการต้องยุติลงทันที แต่ยังไม่มั่นใจว่า จะส่งให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองดำเนินการต่อไปได้หรือไม่ เพราะกฎหมายจะไม่มีผลย้อนหลังในกรณีที่เป็นโทษต่อจำเลย แต่ยังสามารถดำเนินการตามกฎหมายที่มีผลบังคับใช้อยู่ก่อนได้

           นายมีชัย เปิดเผยด้วยว่า กรธ.เตรียมหาแนวทางการยกร่างกฎหมายลูกขององค์กรอิสระ เพื่อห้ามองศ์กรอิสระจัดหลักสูตรการเรียนต่างๆ เพราะไม่ใช่หน้าที่ขององค์กรอิสระ แต่เบื้องต้นยังหาวิธีในการร่างอยู่ รวมถึงการเดินทางไปดูงานต่างประเทศด้วย เพราะ กรรมการองค์กรอิสระที่ได้รับการคัดเลือกมานั้น ก็ย่อมเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านนั้น ๆ อยู่แล้ว