หน.เขตฯสลักพระ เผยพี่ใหญ่แห่งป่าสลักพระเหยื่อกระบะพุ่งชน ผ่าพิสูจน์แล้ว กระดูกต้นขาหน้าหักละเอียด เลือดคั่งที่กะโหลก เลือดออกที่หัวใจ เฉพาะเลือดตกในมากถึง 3 ลิตร จนท.ถึงอุทาน “โอ้เจ้าพระคุณเอ๊ย”
ความคืบหน้ากรณีช้างป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ เพศผู้อายุ 30 ปี หนัก 6-7 ตัน ถูกรถยนต์กระบะพุ่งชนได้รับบาดเจ็บขาหน้าด้านขวาหัก เหตุเกิดเช้าวันที่ 9 ม.ค.65 ที่ผ่านมา แต่ต่อมาเวลาประมาณ 15.30 น.ของวันที่ 11 ม.ค.ช้างตัวดังกล่าวเกิดอาการซ็อกและเสียชีวิตลง โดยนายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ
พร้อมด้วย นางสาวลักษณา ประสิทธิชัย นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ นางสาวกนกวรรณ ตรุยานนท์ นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ สังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3( บ้านโป่ง)รวมทั้งเจ้าหน้าที่ชุดผลักดันช้างป่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ พยายามช่วยเหลือชีวิตช้างป่าอย่างเต็มที่ สำหรับจุดที่ช้างเสียชีวิตอยู่ห่างจากถนนสาย 3199 เข้าไปในป่าลึกประมาณ 2 กิโลเมตร ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น.วันนี้ 12 ม.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ เปิดเผยว่า เวลา 16.00 น.ของวันที่ 11 ม.ค.ต่อเนื่องกันหลายชั่วโมง ตน และเจ้าหน้าที่เขตฯ สลักพระ พร้อมคณะนายสัตวแพทย์ สบอ.3 (บ้านโป่ง) ได้ทำการผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตของช้างป่าเพศผู้ อายุ 30 ปี หนัก 6-7 ตัน ที่ถูกรถยนต์กระบะพุ่งชน ที่บริเวณถนนสาย 3199 เส้นทางกาญจนบุรี-อำเภอศรีสวัสดิ์ บ้านท่ามะนาว หมู่ 2 ต.วังด้ง อ.เมืองกาญจนบุรี
ผลการผ่าพิสูจน์พบว่ากระดูกต้นขาขวาด้านหน้าหักออกเป็นชิ้นๆ เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นถึงกับอุทานออกมาว่า โอ้เจ้าพระคุณเอ๊ย นอกจากนี้ยังมีเลือดคั่งบริเวณใต้ผิวหนัง พบเลือดออกภายในประมาณ 3 ลิตร กล้ามเนื้อมีลักษณะฉีกขาดเป็นวงกว้าง บริเวณชั้นใต้ผิวหนังด้านหน้ากะโหลก พบมีการคั่งเลือด หัวใจมีร่อยรอยอักเสพและจุดเลือดออก ส่วนบริเวณอวัยวะระบบสืบพันธุ์มีเลือดออกด้วยเช่นกัน
คณะสัตวแพทย์จึงสันนิษฐานว่า สาเหตุการตายเกิดจากการโดนรถชน ทำให้เกิดเลือดออกภายใน จึงส่งผลให้ช้างป่าตัวดังกล่าวเกิดภาวะช็อคจากการสูญเสียเลือด หลังจากทำการผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุแล้วเสร็จ เวลา 23.00 น.ของคืนวันที่ 11 ม.ค.คณะเจ้าหน้าที่จึงได้จัดทำบันทึกเรื่องราว เข้าพบ ร.ต.อ.ธีรยุทธ อังวะ รอง สว.(สอบสวน)สภ.ลาดหญ้า เพื่อลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐาน
ขณะเดียวกันต้องขอขอบคุณท่าน พล.ต.บรรยง ทองน่วม ผบ.พล.ร.9/ผบ.กกล.สุรสีห์ และ พ.อ.เฉลิมชัย ชัดใจ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 9 ที่ให้ความช่วยเหลือในการประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 9 ( ร.9พัน1)และกองพันทหารช่าง ที่ 9 พล.ร.9 พร้อมนำแบคโฮ เข้ามาให้ความช่วยเหลือในการขุดหลุมเพื่อฝังซากช้างในครั้งนี้
ทีมข่าวกาญจนบุรี